สารบัญบทความ
ToggleUSDA Organic คือมาตรฐานรับรองสินค้าออร์แกนิคระดับโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจึงควรทำความเข้าใจมาตรฐานนี้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าออร์แกนิค เพราะนอกจากจะเป็นตัวชี้วัดความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือแล้ว ยังช่วยให้มั่นใจว่าสินค้าเหล่านั้นเป็นไปตามกระบวนการผลิตที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง บทความนี้ Butterfly Organic จะพาคุณไปรู้จักกับ USDA Organic ในทุกแง่มุม พร้อมอธิบายระดับมาตรฐาน และแนวทางเลือกสินค้าออร์แกนิคที่เหมาะสมสำหรับคุณ
USDA Organic ย่อมาจากอะไร?

มาตรฐาน USDA Organic ย่อมาจาก United States Department of Agriculture Organic Certification ซึ่งเป็นระบบการรับรองสินค้าออร์แกนิคโดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ที่ได้รับความเชื่อถือในระดับสากล USDA คือองค์กรหลักที่กำกับดูแลและวางกรอบมาตรฐานการผลิตสินค้าออร์แกนิคที่เน้นความปลอดภัยและคุณภาพสูง ครอบคลุมถึงกระบวนการเพาะปลูก การแปรรูป และการขนส่งสินค้าออร์แกนิค เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในสินค้าออร์แกนิคและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคทุกชิ้น
USDA Organic คืออะไร ทำไมผู้บริโภคควรรู้จัก?

USDA Organic คือ มาตรฐานที่เน้นให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคตระหนักถึงการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน ลดการใช้สารเคมีสังเคราะห์ ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง โดยสินค้าออร์แกนิคที่ได้รับตรา USDA Organic จะต้องผ่านเกณฑ์ที่เข้มงวดและการตรวจสอบที่โปร่งใส จึงเหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของอาหาร รวมถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ USDA คือหน่วยงานที่รับผิดชอบกำกับดูแลมาตรฐานเหล่านี้โดยตรง สินค้าออร์แกนิค มีอะไรบ้างนั้น จะต้องผ่านเกณฑ์ที่ระบุไว้อย่างชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทุกกลุ่ม
USDA Organic แบ่งเป็นกี่ระดับ?

ระบบ USDA Organic แบ่งสินค้าออกเป็นหลายระดับตามสัดส่วนของวัตถุดิบออร์แกนิคที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ โดยแต่ละระดับจะมีเงื่อนไขและข้อกำหนดแตกต่างกันไป เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจและเลือกซื้อสินค้าออร์แกนิคได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด ทั้งนี้มาตรฐานดังกล่าวได้รับการยอมรับและนำไปใช้ในวงการสินค้าออร์แกนิคและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคทั่วโลก
1. สินค้าที่มีส่วนผสมเป็น Organic 100%
ผลิตภัณฑ์ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้จะต้องมีส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิค 100% เท่านั้น และต้องไม่ผ่านกระบวนการที่ใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ทำให้เป็นสินค้าที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการความมั่นใจในกระบวนการผลิตและวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ใส่ใจในมาตรฐานสูงสุดของสินค้าออร์แกนิค
2. สินค้าที่มีส่วนผสมเป็น Organic ไม่น้อยกว่า 95%
สินค้าออร์แกนิคกลุ่มนี้ต้องมีส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิคอย่างน้อย 95% โดยน้ำหนัก และส่วนผสมที่เหลือต้องอยู่ในรายชื่อสารอนุญาตของ USDA เท่านั้น ผู้ผลิตสามารถติดฉลาก USDA Organic ได้ ซึ่งได้รับความนิยมในตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคอย่างมาก เพราะเป็นระดับที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
แล้วสินค้าที่มีส่วนผสมเป็น Organic ที่ตํ่ากว่า 95% ไม่ได้รับรองมาตรฐาน USDA Organic หรือ?
สำหรับสินค้าออร์แกนิคที่มีส่วนผสมออร์แกนิคตั้งแต่ 70% – 94% สามารถระบุข้อความ “made with organic ingredients” บนฉลากได้ แต่จะไม่ได้รับตรา USDA Organic บนบรรจุภัณฑ์โดยตรง ผู้บริโภคจึงควรตรวจสอบข้อมูลฉลากสินค้าออร์แกนิคก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเสมอ เพื่อให้มั่นใจในมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่เลือกใช้
USDA Organic ควรเป็นสินค้าแบบไหน?

USDA Organic ควรเป็นสินค้าออร์แกนิคที่ผลิตจากกระบวนการที่คำนึงถึงความยั่งยืน ไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ และให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สินค้าออร์แกนิคที่ผ่านการรับรองจาก USDA ต้องใช้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตที่มีการจัดการอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคเหล่านี้จึงตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและความยั่งยืนของโลก
อ่านบทความ >> อาหารออร์แกนิค คืออะไร ทำไมต้องกิน?
USDA มีแนวทางในการประเมินอย่างไร ยากหรือไม่?

การขอรับรอง USDA Organic ต้องผ่านการประเมินที่เข้มงวดและโปร่งใส โดยกระบวนการจะครอบคลุมตั้งแต่การเตรียมพื้นที่เพาะปลูก การเลือกวัตถุดิบ ไปจนถึงการแปรรูปและการขนส่งสินค้าออร์แกนิค ทุกขั้นตอนต้องมีการจัดเก็บข้อมูลและสามารถตรวจสอบได้ตามมาตรฐานของ USDA ซึ่ง USDA คือหน่วยงานที่ทำหน้าที่ประเมินและออกใบรับรองอย่างเป็นทางการ สินค้าออร์แกนิคที่ผ่านการรับรองนี้จึงเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้ในระดับสากล
มาตรฐาน Organic Thailand มีอะไรบ้าง?
มาตรฐาน Organic Thailand เป็นแนวทางการรับรองสินค้าออร์แกนิคของประเทศไทยที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค สินค้าออร์แกนิคที่ได้รับตรา Organic Thailand จะต้องผ่านเกณฑ์ดังนี้
- การใช้วัตถุดิบออร์แกนิค: ต้องใช้วัตถุดิบที่ได้จากการเกษตรอินทรีย์ในสัดส่วนที่กำหนด
- งดเว้นการใช้สารเคมีสังเคราะห์: ห้ามใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง หรือสารเคมีอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
- การจัดการแปลงผลิตอย่างยั่งยืน: ต้องมีการวางแผนและดูแลพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสม ป้องกันการปนเปื้อนจากแหล่งภายนอก
- การบันทึกข้อมูลและตรวจสอบย้อนกลับ: เกษตรกรและผู้ผลิตต้องจัดเก็บข้อมูลการผลิตและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน
- ผ่านการประเมินโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: สินค้าออร์แกนิคทุกชิ้นต้องผ่านการตรวจสอบโดยหน่วยงานที่มีอำนาจรับรองเท่านั้น
มาตรฐานนี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสินค้าออร์แกนิคและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคให้ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
7 ตัวอย่าง สินค้าออร์แกนิค ที่ได้รับมาตรฐาน USDA Organic

สินค้าออร์แกนิค ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน USDA Organic มีความหลากหลายและครอบคลุมทั้งอาหารสดและแปรรูป เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืนตลอดกระบวนการผลิต ตัวอย่างเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่ได้รับความนิยมในตลาด ทั้งยังตอบโจทย์ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
1. นมออร์แกนิค
นมออร์แกนิค ที่ได้รับตรา USDA Organic มาจากวัวที่เลี้ยงด้วยอาหารอินทรีย์ ไม่ใช้ฮอร์โมนหรือยาปฏิชีวนะ สินค้าออร์แกนิคประเภทนี้จะมีการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพในทุกขั้นตอน ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในความสะอาดและความปลอดภัย
2. โยเกิร์ตออร์แกนิค
โยเกิร์ตออร์แกนิค เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคยอดนิยม โดยผลิตจากนมออร์แกนิคคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการแปรรูปที่ไม่ใช้สารปรุงแต่งหรือวัตถุกันเสีย โยเกิร์ตประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกเพื่อสุขภาพที่แท้จริง
3. ผลไม้สดออร์แกนิค
ผลไม้สดออร์แกนิค ที่ได้รับการรับรอง USDA Organic จะต้องปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์หรือยาฆ่าแมลง ช่วยลดการสะสมของสารตกค้างในร่างกาย และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานผลไม้ที่ปลอดภัย
4. ผักใบเขียวออร์แกนิค
ผักใบเขียวออร์แกนิค เช่น ผักโขม ผักกาดหอม หรือผักสลัด ที่ได้รับการรับรองจาก USDA Organic จะมีการควบคุมการปลูกทุกขั้นตอน เน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและให้ความสำคัญกับความสดใหม่และปลอดภัยต่อผู้บริโภค
5. ข้าวออร์แกนิค
ข้าวออร์แกนิค เป็นสินค้าออร์แกนิคที่ผลิตโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีหรือสารเร่งการเจริญเติบโต ข้าวประเภทนี้จะต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน USDA Organic เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยและดีต่อสุขภาพในระยะยาว
6. เนื้อสัตว์ออร์แกนิค
เนื้อสัตว์ออร์แกนิค ที่ได้รับการรับรองจาก USDA Organic ต้องมาจากสัตว์ที่เลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ได้รับอาหารอินทรีย์ ไม่ใช้ฮอร์โมนหรือยาปฏิชีวนะ ทำให้เนื้อสัตว์ประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ
7. ไข่ออร์แกนิค
ไข่ออร์แกนิค เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่ได้จากแม่ไก่ที่เลี้ยงด้วยอาหารอินทรีย์และมีวิถีการเลี้ยงที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ไข่ออร์แกนิคที่ได้รับมาตรฐาน USDA Organic จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับทุกวัย
สรุป
USDA Organic เป็นมาตรฐานที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าออร์แกนิค โดยการแบ่งระดับและข้อกำหนดต่าง ๆ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ได้อย่างมั่นใจ Butterfly Organic ภูมิใจนำเสนอผลิตภัณฑ์นมออร์แกนิคและโยเกิร์ตออร์แกนิคที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน USDA Organic ทุกขั้นตอน เพื่อส่งมอบสุขภาพที่ดีและความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมให้กับทุกครอบครัว
อ่านบทความ >> โยเกิร์ตออร์แกนิค VS โยเกิร์ตทั่วไป ต่างกันอย่างไร?
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ USDA Organic
USDA ย่อมาจาก United States Department of Agriculture หรือกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรหลักที่กำกับดูแลการรับรองสินค้าออร์แกนิค
มาตรฐาน Organic Thailand คือระบบรับรองสินค้าออร์แกนิคในประเทศไทย โดยมีหลักเกณฑ์ด้านการใช้วัตถุดิบอินทรีย์ งดเว้นสารเคมีสังเคราะห์ และเน้นความยั่งยืนตลอดกระบวนการผลิต
เครื่องหมาย USDA คือสัญลักษณ์รับรองที่ออกโดย USDA Organic สำหรับสินค้าออร์แกนิคที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กำหนด ช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพสินค้า
ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคคือสินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีสังเคราะห์ ผ่านกระบวนการที่โปร่งใสและตรวจสอบย้อนกลับได้
ขั้นตอนขอรับรอง USDA Organic เริ่มตั้งแต่การวางแผนเพาะปลูก การจัดการวัตถุดิบ การเก็บข้อมูลทุกขั้นตอน ไปจนถึงการขอรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ USDA เพื่อสร้างมาตรฐานสินค้าออร์แกนิคที่โปร่งใสและเชื่อถือได้





