ลําไส้แปรปรวน ควรกินอะไร? แนะนำวิธีดูแลสุขภาพลําไส้

Picture of Editor

Editor

สารบัญบทความ

คุณเคยสงสัยไหมว่าเมื่อมีภาวะลําไส้แปรปรวน ควรกินอะไรและอาหารแบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง? หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าลําไส้แปรปรวน ห้ามกินอะไรเพื่อป้องกันการกระตุ้นอาการ ควรจัดการอาหารการกินอย่างไรให้ช่วยดูแลสุขภาพลําไส้ได้ยั่งยืน บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจวิธีเลือกอาหารที่เหมาะสม พร้อมแนวทางดูแลลําไส้ให้แข็งแรงในชีวิตประจำวัน

คนลำไส้แปรปรวน กินอาหารอะไรดี?

ผู้ที่มีอาการลําไส้แปรปรวนควรเลือกอาหารที่ย่อยง่าย ไม่กระตุ้นให้ลําไส้ทำงานหนักเกินไป เพื่อช่วยลดอาการท้องอืด ปวดเกร็ง และปัญหาการขับถ่าย ดังนี้

  • ข้าวและธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ควินัว ช่วยเพิ่มใยอาหารที่อ่อนโยนต่อระบบลําไส้
  • โปรตีน เช่น เนื้อปลา ไก่ไม่ติดหนัง ไข่ต้ม เต้าหู้ เพื่อลดภาระการทำงานของลําไส้
  • ผักและผลไม้ เช่น แครอท ฟักทอง กล้วยสุก กีวี ช่วยปรับสมดุลการขับถ่าย
  • โยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว ช่วยเสริมจุลินทรีย์ที่ดีในลําไส้ ลดความผิดปกติของการขับถ่าย
  • น้ำสะอาด ควรดื่มน้ำวันละ 6–8 แก้ว เพื่อช่วยให้อุจจาระนิ่มและลดอาการท้องผูก
  • อาหารแบบ FODMAP ต่ำ เช่น มันฝรั่ง แตงกวา ข้าว ข้าวโอ๊ต เพื่อช่วยลดแก๊สและอาการท้องอืด

ผักและผลไม้ที่เหมาะกับผู้มีอาการลำไส้แปรปรวน

หลายคนที่มีปัญหาลําไส้แปรปรวนมักสงสัยว่าลําไส้แปรปรวน กินกล้วยได้ไหมหรือลําไส้แปรปรวน กินผลไม้อะไรได้บ้างคำตอบคือสามารถเลือกผักและผลไม้บางชนิดที่ย่อยง่าย กากใยอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดแก๊สมากเกินไปได้ เช่น

  • กล้วยสุก เป็นผลไม้ที่เหมาะสม ช่วยให้ขับถ่ายง่ายไม่ระคายเคืองลําไส้
  • กีวี มีใยอาหารที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย 
  • แครอท ฟักทอง ลดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร
  • แตงกวา แตงโม ย่อยง่าย ลดอาการท้องอืด
  • ผลไม้ตระกูลส้ม ควรเลือกแบบไม่เปรี้ยวจัดเพื่อลดการระคายเคือง
  • เบอร์รี่ อุดมไปด้วยใยอาหารที่ดีต่อสุขภาพลําไส้
  • ผลไม้ FODMAP ต่ำ เช่น องุ่น กีวี กล้วยสุก ช่วยลดแก๊สและอาการแน่นท้อง

อาหารที่ช่วยลดอาการท้องอืด แน่นท้อง และแก๊สส่วนเกิน

ผู้ที่มีภาวะลําไส้แปรปรวนมักเจอปัญหาท้องอืด แน่นท้อง หรือมีแก๊สมากเกินไป ซึ่งการเลือกอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ ลําไส้แปรปรวน กินอาหารอะไรดี? จึงจะช่วยให้สบายท้องมากขึ้น

1. ข้าวต้มปลา,ข้าวต้มไก่ เมนูย่อยง่าย ไม่ก่อให้เกิดแก๊ส

2. ซุปผักใส ลดการอุดตันในลําไส้

3. ไข่ตุ๋นหรือไข่ลวก ไม่ทำให้ลําไส้ทำงานหนัก

4. ปลานึ่ง ช่วยลดอาการแน่นท้อง

5. โยเกิร์ต ช่วยเสริมจุลินทรีย์ที่ดีในลําไส้ ลดแก๊สสะสม

6. ข้าวโอ๊ตต้มกับผักอ่อน ๆ ให้ใยอาหารที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร

โปรไบโอติกและพรีไบโอติก ตัวช่วยสำคัญของโรคลําไส้แปรปรวน

สำหรับผู้ที่มีปัญหาลำไส้แปรปรวน หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยคือลําไส้แปรปรวน ควรกินอะไรจึงจะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานสมดุลมากขึ้น คำตอบสำคัญคืออาหารที่มีทั้งโปรไบโอติกและพรีไบโอติกเนื่องจากสองสิ่งนี้ทำงานร่วมกันในการเสริมสร้างจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้

โปรไบโอติก คือ จุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยรักษาสมดุลในระบบทางเดินอาหาร โดยพบได้ในโยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ และอาหารหมักดองบางชนิด ส่วนพรีไบโอติกคือใยอาหารชนิดพิเศษที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ พบมากในผัก ผลไม้ ธัญพืช และถั่วบางชนิด เมื่อร่างกายได้รับทั้งโปรไบโอติกและพรีไบโอติกอย่างเพียงพอ จะช่วยลดอาการท้องอืด แน่นท้อง และทำให้การขับถ่ายเป็นปกติมากขึ้น

แหล่งอาหารที่มีกากใยสูง ช่วยระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น

การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงเป็นหนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพลำไส้ที่ได้ผลดีที่สุด เพราะกากใยอาหารช่วยเพิ่มปริมาณกากในลำไส้ กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ผู้ที่มีปัญหาท้องผูกหรือมีอาการลำไส้แปรปรวนจึงควรเลือกอาหารที่ดีต่อลำไส้ เช่น ธัญพืชเต็มเมล็ด ผักสด ผลไม้ที่อุดมไปด้วยใยอาหารชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยทั้งการปรับสมดุลจุลินทรีย์และลดความเสี่ยงของการเกิดอาการท้องอืด

อาการของลำไส้แปรปรวน ที่ควรรู้และสังเกตให้ทัน

การสังเกตอาการลำไส้แปรปรวนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรับมือและปรับพฤติกรรมการกินได้อย่างเหมาะสม อาการลำไส้แปรปรวนสังเกตได้ดังนี้

  • ปวดท้องเรื้อรังหรือปวดเกร็งเป็นพัก ๆ 
  • ท้องอืด แน่นท้อง หรือมีแก๊สสะสม
  • การขับถ่ายผิดปกติ 
  • อุจจาระเปลี่ยนแปลง
  • รู้สึกขับถ่ายไม่สุด 
  • อ่อนเพลียและนอนไม่สบาย

อาหารกับอาการลำไส้แปรปรวน เกี่ยวข้องกันอย่างไร?

อาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อการกำเริบของลำไส้แปรปรวน เพราะอาหารบางชนิดสามารถกระตุ้นให้เกิดแก๊สในลำไส้ เพิ่มการบีบตัวผิดปกติ หลายคนจึงมักสงสัยว่าลําไส้แปรปรวน ห้ามกินอะไรเพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นอาการที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ท้องอืด ปวดเกร็ง หรือท้องเสีย การเลือกอาหารที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงอาหารบางกลุ่มจึงเป็นหัวใจสำคัญในการควบคุมอาการและช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ

แนวทางการกินแบบ FODMAP เพื่อบรรเทาอาการ IBS

ลําไส้แปรปรวน วิธีรักษาคือการปรับอาหารตามแนวทาง FODMAP (FODMAP คือ คาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายดูดซึมได้ยาก ทำให้เกิดแก๊ส ท้องอืด หรือแน่นท้อง) เน้นการดูแลตนเองผ่านการเลือกอาหาร โดยมีหลักการดังนี้

1. ลดอาหารที่มี FODMAP สูง เช่น นมวัว หัวหอม กระเทียม แอปเปิล ขนมปังที่ทำจากข้าวสาลี 

2. เลือกอาหารที่มี FODMAP ต่ำ เช่น ข้าว ข้าวโอ๊ต มันฝรั่ง แตงกวา กล้วยสุก องุ่น 

3. ปรับอาหารอย่างค่อยเป็นค่อยไป 

4. จดบันทึกการกินอาหารและอาการ

5. ปรึกษานักโภชนาการก่อนเริ่มแนวทาง FODMAP 

ลําไส้แปรปรวน ห้ามกินอะไร อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

ลําไส้แปรปรวน ห้ามกินอะไร? สำหรับผู้ที่มีอาการลำไส้แปรปรวน การเลือกอาหารมีผลโดยตรงต่อความรุนแรงของอาการ ซึ่งควรหลีกเลี่ยงอาหารดังนี้

1. อาหารมันจัด อาหารทอด อาหารฟาสต์ฟู้ด ทำให้ลำไส้ทำงานหนัก

2. ผลิตภัณฑ์นมบางชนิด เช่น นมวัวเต็มมัน อาจทำให้ท้องเสีย

3. อาหารที่มีกากใยสูงแบบไม่ละลายน้ำ เช่น ข้าวโพด อาจกระตุ้นแก๊สและท้องอืด

4. น้ำตาลและสารให้ความหวานบางชนิด เช่น ฟรุกโตส ซอร์บิทอล ทำให้ลำไส้หมักแก๊ส

5. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ เช่น กาแฟ น้ำอัดลม เบียร์ เหล้า กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้

โปรไบโอติกสำหรับลำไส้แปรปรวน ยี่ห้อไหนดีที่ควรเลือก?

ลําไส้แปรปรวน ควรกินอะไรเพื่อช่วยบรรเทาอาการ แนะนำให้เสริมด้วยโปรไบโอติก การเลือกผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกเป็นส่วนสำคัญในการดูแลอาการลำไส้แปรปรวน แบรนด์โปรไบโอติกที่แนะนำ เช่น

1. Butterfly Organic โยเกิร์ตพร้อมดื่มรสออริจินัล ทำจากน้ำนมออร์แกนิค หมักด้วยจุลินทรีย์ดี 4 สายพันธุ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเชื้อโปรไบโอติก ไม่มีการใช้สารเพิ่มความคงตัว ไม่แต่งกลิ่น

2. Yakult เครื่องดื่มโปรไบโอติกที่มีจุลินทรีย์ Lactobacillus Casei Shirota ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้

3. Danone โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ Bifidobacterium Lactis DN-173 010 ซึ่งช่วยปรับสมดุลการขับถ่าย

อาหารเสริมช่วยปรับสมดุลลำไส้ เลือกอย่างไรให้ได้ผลจริง

ลําไส้แปรปรวน ควรกินยาอะไร? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ผู้ที่มีอาการลำไส้แปรปรวนอาหารเสริมที่ดีควรมีจุลินทรีย์โปรไบโอติกหลายสายพันธุ์ เพื่อช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดท้องอืด แน่นท้อง ปรับการขับถ่ายให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ควรเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพ ปลอดสารเคมี ควบคู่กับการกินอาหารย่อยง่าย ดื่มน้ำเพียงพอ เพื่อต่อยอดผลลัพธ์ให้เห็นชัดเจนและยั่งยืน

คอร์สอาหารสำหรับผู้ป่วยลำไส้แปรปรวน จัดตารางกินอย่างไรดี

การจัดคอร์สอาหารสำหรับผู้ที่มีอาการลำไส้แปรปรวนช่วยปรับสมดุลและลดอาการไม่สบายท้อง หลายคนอาจสงสัยว่าลําไส้แปรปรวน กี่วันหาย? ซึ่งผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ตัวอย่างแนวทางคอร์สอาหารที่สามารถปรับใช้ได้ มีดังนี้

  • มื้อเช้า เลือกอาหารย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ไข่ตุ๋น หรือโยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติก
  • มื้อสาย/ของว่าง ผลไม้สุกที่ย่อยง่าย เช่น กล้วยสุก กีวี หรือแตงโม
  • มื้อกลางวัน อาหารปรุงสุกง่าย เน้นโปรตีนไขมันต่ำ เช่น ปลา ไก่อบ หรือซุปผักใส พร้อมข้าวสุกหรือมันฝรั่ง
  • มื้อบ่าย/ของว่าง ธัญพืชต้มสุก ขนมปังโฮลวีต หรือโยเกิร์ตชนิดไม่หวาน
  • มื้อเย็น อาหารเบา ย่อยง่าย เช่น ซุปผัก ไข่ตุ๋น หรือข้าวต้มปลา พร้อมดื่มน้ำเพียงพอ

สรุป

คุณเคยสงสัยไหมว่าลําไส้แปรปรวน ควรกินอะไรเพื่อช่วยปรับสมดุลลำไส้ การเลือกอาหารย่อยง่าย ผักและผลไม้ที่เหมาะสม พร้อมโปรไบโอติกและพรีไบโอติกเป็นสิ่งสำคัญ ผลิตภัณฑ์ของ Butterfly Organic เช่น โยเกิร์ตพร้อมดื่มรสออริจินัล กรีกโยเกิร์ตออร์แกนิค ช่วยเสริมจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ยังสามารถรับประทานควบคู่กับอาหารที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพลำไส้ที่แข็งแรงและยั่งยืน


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับลำไส้แปรปรวน ควรกินอะไร (FAQs)  

อาการลำไส้แปรปรวนสามารถหายเองได้ไหม

ส่วนใหญ่ไม่หายเอง แต่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยการปรับอาหารและพฤติกรรมการกิน

เป็นลําไส้แปรปรวนควรกินอะไรดี

ควรเลือกอาหารย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม ปลา ไก่ไม่ติดหนัง ผักผลไม้สุก และอาหาร FODMAP ต่ำ

เป็นลําไส้แปรปรวนสามารถกินไข่ต้มได้ไหม

ได้ ไข่ต้มย่อยง่าย ไม่กระตุ้นลำไส้ เหมาะสำหรับผู้มีอาการลำไส้แปรปรวน

เป็นลำไส้แปรปรวนสามารถกินโยเกิร์ตได้หรือไม่

กินได้ โดยเลือกโยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติก ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้

กินอะไรช่วยปรับสมดุลลำไส้ให้เป็นปกติ

อาหารย่อยง่าย ผักผลไม้สุก ธัญพืช และโปรไบโอติก เช่น โยเกิร์ต Butterfly Organic ช่วยให้ลำไส้ทำงานสมดุล

บทความล่าสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ Privacy Policy และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า