Category: นม
- ใช้เวลาอ่านประมาณ: 2 นาที
- โพสต์เมื่อ
คนจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาท้องอืด หรือถ่ายเหลวหลังดื่มนม ซึ่งมักเกิดจากภาวะไม่ทนต่อแลคโตส หลายคนจึงต้องเลี่ยงการดื่มนม ทำให้พลาดโอกาสได้รับสารอาหารสำคัญอย่างโปรตีนและแคลเซียม แต่ด้วยทางเลือกอย่าง นมแลคโตสฟรี หรือ lactose free จะทำให้สามารถดื่มนมได้อย่างสบายท้อง พร้อมรับประโยชน์ทางโภชนาการครบถ้วน และยังมีรสชาติดีไม่แพ้นมทั่วไป บทความนี้ Butterfly Organic จะขอพาไปรู้จักนมฟรีแลคโตสให้มากขึ้น นมแลคโตสฟรีคืออะไร ทำไมต้องมีนมไม่มีแลคโตส นมแลคโตสฟรี หรือ นมไม่มีแลคโตส คือ นมที่ผ่านกระบวนการย่อยน้ำตาลแลคโตส (Lactose) ออก หรือเปลี่ยนให้อยู่ในรูปน้ำตาลที่ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น เช่น กลูโคสและกาแลคโตส เพื่อให้ผู้ที่มีภาวะไม่ทนต่อแลคโตส (Lactose Intolerance) สามารถดื่มได้โดยไม่เกิดอาการท้องอืด ปวดท้อง หรือท้องเสีย การเลือกดื่มนมแลคโตสฟรี นมที่ไม่มีแลคโตส จึงเป็นทางออกสำหรับคนที่ยังอยากได้ประโยชน์จากนม โดยไม่เสี่ยงต่อปัญหาทางระบบย่อยอาหาร ขยายความเพิ่มเติมว่า ภาวะไม่ทนต่อแลคโตสเป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลตามธรรมชาติในนมและผลิตภัณฑ์จากนมได้อย่างเต็มที่ สาเหตุเกิดจากการที่ลำไส้เล็กผลิตเอนไซม์แลคเตส (Lactase) ไม่เพียงพอ ส่งผลให้แลคโตสที่ไม่ได้ถูกย่อยเคลื่อนเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ แล้วถูกหมักโดยแบคทีเรียจนเกิดก๊าซและกรด ทำให้มีอาการต่าง ๆ เช่น ท้องอืด ปวดท้อง ภาวะนี้สามารถเกิดได้ในทุกช่วงวัย แต่พบมากในผู้ใหญ่และชาวเอเชีย นมไม่มีแลคโตสดีอย่างไร มีสารอาหารอะไรนม free lactose บ้าง นอกจากช่วยลดปัญหาท้องอืดและไม่สบายท้องแล้ว นมแลคโตสฟรียังมีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับนมปกติ ตัวอย่างสารอาหารที่อยู่ในนมที่ไม่มีแลคโตส เช่น โปรตีน: ให้กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างโปรตีนชนิดต่าง ๆ ในร่างกาย วิตามินบี 12: มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง วิตามินบี 2: ช่วยให้ร่างกายได้พลังงานจากคาร์โบไฮเดต โปรตีน และไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส: มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง นอกจากนี้นมแลคโตสฟรี ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดื่มนมในช่วงควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากให้พลังงานไม่สูงเกินไป สามารถใช้เป็นส่วนผสมในเมนูอาหารหรือเครื่องดื่มได้เหมือนนมทั่วไป แนะนำนมแลคโตสฟรีที่คุณไม่ควรพลาด มาถึงตรงนี้หลายคนคงกำลังอยากได้ตัวเลือกของนม lactose free เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์นมแลคโตสฟรีดี ๆ จาก Butterfly Organic 1. น้ำนมอัลมอนด์คีโต สูตรไม่เติมน้ำตาล น้ำนมอัลมอนด์คีโต สูตรไม่เติมน้ำตาล ผลิตจากอัลมอนด์ทั้งเมล็ดรวมเยื่อหุ้ม ไม่สกัดแยกน้ำมัน พร้อมเสริมประโยชน์ให้มากยิ่งขึ้นด้วยเมล็ดทานตะวัน ไม่มีน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก (น้อยกว่า 1 กรัม) 90% ของแคลอรี่ทั้งหมด เป็นไขมันดีที่มาจากอัลมอนด์ และเมล็ดทานตะวันเท่านั้น รสชาติเข้มข้น หอมมันขึ้น 2. น้ำนมอัลมอนด์ ออริจินัล น้ำนมอัลมอนด์ ออริจินัล ขึ้นชื่อเรื่องการดื่มเพื่อลดน้ำหนัก มีกรดไฟติก ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการดูดซึมของเหล็กสังกะสีและแมกนีเซียม ไม่มีคอเลสเตอรอล ไขมันอิ่มตัวต่ำ เป็นนมโปรตีนสูงที่ให้พลังงานต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 30 แคลอรี่ต่อปริมาณ 200 ml. 3. น้ำนมอัลมอนด์ ผสมเม็ดเจีย น้ำนมอัลมอนด์ ผสมเม็ดเจีย ผลิตจากน้ำนมที่ได้จากถั่วอัลมอนด์ ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตจากธรรมชาติ ออร์แกนิค 100% นอกจากนั้นยังเติมเมล็ดเจียเข้าไป เพื่อเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารอีกด้วย 4. น้ำนมอัลมอนด์ ไม่หวาน น้ำนมอัลมอนด์ ไม่หวาน ผลิตจากอัลมอนด์ทั้งเมล็ดรวมเยื่อหุ้ม รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม สามารถดื่มแทนมื้ออาหาร หรือดื่มเป็นของว่างก็ได้ ช่วยให้อิ่มท้องนาน ลดความอยากอาหาร ใครบ้างที่เหมาะกับนมแลคโตสฟรี…
- ใช้เวลาอ่านประมาณ: 3 นาที
- โพสต์เมื่อ
almond milk ขึ้นชื่อว่าหนึ่งในอาหารที่กินแทนขนมได้และดีต่อสุขภาพ แน่นอนว่าอัลมอนด์จะเป็นสิ่งแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง และในปัจจุบัน นอกจากจะสามารถกินอัลมอนด์ได้ในรูปแบบของถั่วแล้ว ก็ยังมีการแปรรูปเป็นแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น นม โยเกิร์ต เนยอัลมอนด์ หรือแป้งอัลมอนด์ เพื่อนำไว้ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำขนมทดแทนแป้งสาลีอีกด้วย นั่นก็เพราะว่าอัลมอนด์นั้นมีคุณประโยชน์มากมายนั่นเอง
- ใช้เวลาอ่านประมาณ: 3 นาที
- โพสต์เมื่อ
Grass Fed Milk คืออะไร หลายๆ คนอาจเคยได้ยินมาก่อน แต่อาจเป็นคำที่ไม่คุ้นหูและใหม่สำหรับใครหลายๆ คน ซึ่งหากจะกล่าวให้เข้าใจกันง่ายๆ เกี่ยวกับนมชนิดนี้ก็คือ นมแบบ Grass fed จะมีลักษณะทางกระบวนการผลิตที่มีความ Organic หรือแบบตามธรรมชาติ ไร้สารเคมีเจือปน ทำให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดีในบทความนี้ Butterfly Organic จะมานำเสนอเกี่ยวกับกระบวนการนมชนิดนี้ให้ทุกคนได้รู้จักเพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้กับเหล่า Milk Lover ทุกคนได้ลองทำความเข้าใจกัน
- ใช้เวลาอ่านประมาณ: 3 นาที
- โพสต์เมื่อ
usda organic คืออะไร อาจเป็นคำที่หลายๆ คนอาจไม่คุ้นเคยมากนัก แต่ในวงการนักทานอาหารออร์แกนิคหรือบรรดาเจ้าของธุรกิจฟาร์มต่างๆ นั้นย่อมเป็นที่คุ้นหูและเป็นที่รู้จักกันดี ซึ่งต้องบอกก่อนว่า USDA เป็นการประเมินผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือจากทางประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีความเข้มงวดในการประเมินเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี การประเมินนี้เกี่ยวอะไรกับผลิตภัณฑ์ของไทย แล้วทำไมผู้บริโภคต้องทำความรู้จัก เรามาติดตามกัน
- ใช้เวลาอ่านประมาณ: 2 นาที
- โพสต์เมื่อ
คุณเคยสงสัยไหมว่า ผลิตภัณฑ์นม คืออะไร และ Dairy Product มีคุณค่าอย่างไรต่อสุขภาพ? ผลิตภัณฑ์นมถือเป็นหนึ่งในกลุ่มอาหารหลักที่เราพบเห็นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นนมสด โยเกิร์ต ชีส หรือเนย หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า Dairy Product คือแหล่งรวมสารอาหารสำคัญที่มีบทบาทกับร่างกายอย่างมาก แล้วในผลิตภัณฑ์นมเหล่านี้ มีสารอาหารอะไรบ้างที่ควรรู้? บทความนี้ Butterfly Organic จะพาคุณไปหาคำตอบ พร้อมทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์จากนมแบบครบถ้วนและชัดเจน ผลิตภัณฑ์นม หรือDairy Product คืออะไร? ผลิตภัณฑ์นม คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากน้ำนมของสัตว์ โดยเฉพาะวัว ซึ่งผ่านกระบวนการแปรรูปต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับการบริโภคหรือใช้ในการประกอบอาหาร Dairy Product คือ กลุ่มอาหารที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนมสด ชีส โยเกิร์ต เนย หรือนมผง ทั้งหมดนี้ล้วนจัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนม ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและให้สารอาหารหลากหลายชนิด ผลิตภัณฑ์นมยังเป็นแหล่งของโปรตีน แคลเซียม วิตามินบี และไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย Dairy Products มีอะไรบ้าง ผลิตภัณฑ์นม แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นอย่างไร หลายคนอาจสับสนระหว่างผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่น ๆ เพราะทั้งสองกลุ่มมีความคล้ายคลึงกันในด้านการนำไปใช้บริโภคและประกอบอาหาร อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์จากนมมีจุดเด่นเรื่องสารอาหารที่เฉพาะเจาะจงมากกว่า โดยเฉพาะสารอาหารที่พบในน้ำนม เช่น แคลเซียมและโปรตีน ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์แปรรูปทั่วไปที่อาจไม่ได้มาจากนมโดยตรง ผลิตภัณฑ์นม ผลิตภัณฑ์นม หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากน้ำนมดิบ เช่น นมสด เนย ชีส หรือโยเกิร์ต ซึ่งยังคงคุณสมบัติทางโภชนาการไว้ครบถ้วน ผลิตภัณฑ์จากวัว มีอะไรบ้างนั้น มักประกอบด้วยผลิตภัณฑ์พื้นฐานและผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ยังคงสารอาหารสำคัญของน้ำนมอยู่ ผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ คือผลิตภัณฑ์อาหารที่อาจมีการเติมแต่งสารอาหาร วัตถุเจือปน หรือผ่านกระบวนการแปรรูปหลายขั้นตอน เช่น ไส้กรอก ขนมปัง หรืออาหารกึ่งสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจไม่ได้ให้คุณค่าทางโภชนาการเหมือนผลิตภัณฑ์จากนม และไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่ม Dairy Products สารอาหารใน Dairy Products มีอะไรบ้าง? Dairy Product หรือผลิตภัณฑ์นมเป็นแหล่งสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายและสุขภาพที่ดี ในแต่ละผลิตภัณฑ์นมจะมีปริมาณสารอาหารแตกต่างกันออกไป โดยขึ้นกับชนิดขอผลิตภัณฑ์จากนมและวิธีการแปรรูป ตัวอย่างสารอาหารหลักในผลิตภัณฑ์นม มีดังนี้ โปรตีน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย แคลเซียม มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน วิตามินดี มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย โพแทสเซียม ช่วยควบคุมความสมดุลของน้ำในร่างกายและสนับสนุนการทำงานของระบบประสาท ฟอสฟอรัส มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์ ไขมัน เป็นแหล่งพลังงานที่ดี และช่วยในการดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน แมกนีเซียม ช่วยในกระบวนการสร้างโปรตีนและดูแลสุขภาพหัวใจ วิตามินเอ ส่งเสริมสุขภาพตาและระบบภูมิคุ้มกัน สารอาหารเหล่านี้เป็นจุดเด่นที่ทำให้ Dairy Products คือหนึ่งในกลุ่มอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย อาการแพ้ Dairy Products มีอะไรบ้าง? แม้ว่าผลิตภัณฑ์นมจะให้สารอาหารที่สำคัญ แต่บางคนอาจเกิดอาการแพ้ Dairy Product ได้ โดยอาการแพ้ Dairy Product คือมีได้หลายรูปแบบและขึ้นกับแต่ละบุคคล โดยทั่วไปจะพบได้ทั้งในผู้ที่แพ้นมแท้ และผู้ที่มีภาวะแพ้แลคโตสในผลิตภัณฑ์จากนม อาการแพ้เหล่านี้ควรได้รับการวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม 1. แพ้นมแท้ (Milk Allergy) Milk…
- ใช้เวลาอ่านประมาณ: 3 นาที
- โพสต์เมื่อ
กินโยเกิร์ตตอนไหนดี ปัญหาโลกแตกที่ไม่มีใครรู้คำตอบได้อย่างชัดเจนเพราะแต่ละแหล่งข้อมูลก็มีความคลุมเครืออยู่ไม่ใช่น้อยว่าแท้จริงแล้วเราควรกินโยเกิร์ตตอนไหนกันแน่ โดยเฉพาะในเรื่องของการกินตอนเช้า กินก่อนนอน กินก่อนอาหารหรือหลังอาหาร ยังคงเป็นข้อสงสัยว่าแท้จริงแล้วกินตอนไหนหรือกินแบบไหนกันแน่ถึงจะดีต่อสุขภาพ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่าเวลาไหนคือเวลากินโยเกิร์ตที่ส่งผลดีที่สุดต่อร่างกายของเรากันแน่
- ใช้เวลาอ่านประมาณ: 2 นาที
- โพสต์เมื่อ
คุณเคยสงสัยไหมว่า “นมบำรุงผิว” สามารถช่วยให้ผิวของเราดูสุขภาพดีขึ้นได้จริงหรือไม่? หลายคนอาจคุ้นเคยกับการดื่มนมเพื่อบำรุงร่างกาย แต่ในความจริงแล้ว นมยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจสำหรับการดูแลผิวอีกมากมาย บทความนี้ Butterfly Organic จะพาคุณไปรู้จักกับ 7 คุณค่าจากนม ที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูและเสริมความแข็งแรงให้กับผิว พร้อมแนวทางนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ใครที่อยากมีผิวสวยแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ควรพลาดเนื้อหาเหล่านี้ นมบำรุงผิว คืออะไร? นมบำรุงผิว คือการนำ “นม” ไม่ว่าจะเป็นนมสด หรือนมออร์แกนิค มาใช้เพื่อฟื้นบำรุงและดูแลผิวพรรณทั้งจากภายนอกและภายใน นมสดอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน และกรดแลคติกที่มีประโยชน์กับผิว เมื่อใช้เป็นส่วนผสมของสูตรนมบำรุงผิว จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้านและคืนความนุ่มนวลให้กับผิว รวมทั้งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวด้วยวัตถุดิบธรรมชาติที่ปลอดภัย ใช้นมบำรุงผิว ได้ผลจริงหรือไม่? หลายคนอาจลังเลว่าวิธีดูแลผิวด้วย “นมบำรุงผิว” นั้นได้ผลจริงหรือเปล่า จากประสบการณ์และหลักฐานทางวิชาการ นมวัวมีสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงผิว เช่น วิตามินบี2 วิตามินเอ และโปรตีน ซึ่งมีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ การใช้นมพอกหน้า หรือสูตรสครับน้ำนม ยังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพผิวทั่วโลก ถึงแม้ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล แต่หากใช้อย่างถูกวิธีและต่อเนื่องก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ 7 คุณประโยชน์จากนมสด ช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดี ที่คุณควรรู้! นมวัวสดไม่ใช่เพียงแค่อาหารที่ดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งคุณค่าที่ใช้บำรุงผิวได้อย่างหลากหลาย สูตรนมบำรุงผิวที่ถูกใช้มาตั้งแต่โบราณมีจุดเด่นเรื่องการบำรุงและฟื้นฟูผิวให้เนียนนุ่ม กระจ่างใส พร้อมมอบความชุ่มชื้นที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ในหัวข้อนี้เราจะพาคุณไปรู้จัก 7 คุณประโยชน์หลักของนมวัวที่ควรลองนำไปใช้ดูแลผิวด้วยตัวเอง 1. เป็นคลีนเซอร์จากธรรมชาติ นมวัวสดถือเป็นคลีนเซอร์จากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิว ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางได้อย่างหมดจดโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง กรดแลคติกในนมยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกอย่างนุ่มนวล เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและกำลังมองหาสูตรนมบำรุงผิวที่ใช้ในชีวิตประจำวัน 2. มอยส์เจอไรเซอร์ชั้นดี วิตามินและไขมันจากนมวัวสดช่วยเติมความชุ่มชื้นและล็อกน้ำในผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ดูอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งหรือขาดความชุ่มชื้น การใช้นมพอกผิวหรือสครับนมวัวเป็นประจำจึงช่วยปรับสมดุลผิวให้สุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 3. บรรเทาผิวอักเสบ ผิวไหม้ได้อย่างดี นมสดมีคุณสมบัติในการช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองและลดความร้อนบนผิว เช่น หลังออกแดดหรือผิวอักเสบอ่อน ๆ โปรตีนและวิตามินในนมช่วยปลอบประโลมผิวให้ผ่อนคลาย ลดรอยแดง และฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงอย่างรวดเร็ว 4. ใช้สครับน้ำนมขจัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว กรดแลคติกในนมสดช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้ผิวระคายเคือง การใช้นมเป็นสครับน้ำนมหรือสครับนมวัวสามารถช่วยเผยผิวใหม่ที่เนียนใสกว่าเดิม ส่งผลให้ผิวดูเปล่งปลั่งและสดชื่นขึ้น 5. การแช่เท้าในนม จะทำให้ผิวเท้าจะนุ่มขึ้น การนำเท้าแช่ในน้ำนมอุ่นเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยให้ผิวเท้านุ่มลื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กรดแลคติกในนมจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หยาบกร้าน ขณะที่ความชุ่มชื้นจากไขมันนมช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาเนียนนุ่มอีกครั้ง เป็นสูตรนมบำรุงผิวที่เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพเท้า 6. ใช้เป็นส่วนผสมของการมาสก์หน้าหรือสครับผิว นมวัวสดเหมาะสำหรับใช้ผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ ในการทำมาสก์หน้าหรือสครับผิว เพื่อเสริมประสิทธิภาพการบำรุงและผลัดเซลล์ผิว เช่น การใช้นมสดผสมกับข้าวโอ๊ตหรือโยเกิร์ต จะช่วยให้ผิวหน้านุ่ม กระจ่างใส และลดความหมองคล้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติ 7. การทานนมเพื่อบรรเทาสิว การบริโภคนมวัวสดในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุสำคัญที่มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิวและลดการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการสิวบางประเภทได้ นอกจากนี้ ในนมยังมีโปรตีนคุณภาพดีและวิตามินในนมยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของผิว อ่านบทความ >> รวมประโยชน์ของการใช้โยเกิร์ตและนมบำรุงผิว รวมสูตร 4 นมพอกหน้าบำรุงผิว ให้ผิวเด้ง ฉ่ำ นุ่ม! หากคุณอยากลองดูแลผิวด้วยวิธีธรรมชาติ สูตรนมบำรุงผิวถือเป็นทางเลือกยอดนิยม เพราะสามารถปรับใช้กับทุกสภาพผิวได้ง่าย ๆ ไม่ต้องพึ่งสารเคมี นมพอกผิวและสครับน้ำนมจะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวให้ฉ่ำน้ำ และทำให้ผิวดูสุขภาพดีได้อย่างปลอดภัยในทุก ๆ วัน 1. สูตรทำความสะอาดหน้าด้วยน้ำนม นำสำลีแผ่นชุบนมสดเย็น เช็ดให้ทั่วใบหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย เพราะสครับน้ำนมจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างอ่อนโยน พร้อมคงความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า 2. สูตรสครับผิวด้วยน้ำนม ผสมสครับนมวัวกับข้าวโอ๊ตบดละเอียด จากนั้นนำมาสครับเบา ๆ บนผิวกายหรือผิวหน้าแล้วล้างออก…
- ใช้เวลาอ่านประมาณ: 3 นาที
- โพสต์เมื่อ
นมบำรุงสมอง มีนมอะไรบ้างและเหตุใดนมบำรุงสมองถึงมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาสมอง? สำหรับใครที่อยากดูแลสมองของลูกหรือสมาชิกในครอบครัว การเลือก “นมบำรุงสมอง” ให้เหมาะสมคืออีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม หลายคนอาจสงสัยว่าควรเลือกนมแบบไหน หรือแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร วันนี้ Butterfly Organic เราจะพาไปรู้จักนมบำรุงสมองแต่ละประเภท พร้อมทั้งเจาะลึกความสำคัญของอาหารบำรุงสมองเด็ก กินอะไรบํารุงสมอง ความจําดี เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในบ้าน นมบำรุงสมอง คืออะไร? นมบำรุงสมอง คือ ผลิตภัณฑ์นมที่ออกแบบหรือเลือกสรรวัตถุดิบให้เหมาะสมกับการดูแลสุขภาพสมองในทุกช่วงวัย โดยเน้นคุณค่าทางโภชนาการที่ช่วยบำรุงสมองและเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท ไม่ว่าจะเป็นนมอัลมอนด์ นมวัว นมถั่วเหลือง หรือแม้แต่นมพืชชนิดต่าง ๆ ล้วนเป็นอาหารบำรุงสมองที่มีสารอาหารจำเป็น อาทิ วิตามิน อี, โอเมก้า 3 และแคลเซียม นอกจากนี้ นมบำรุงลูกยังได้รับความนิยมในกลุ่มพ่อแม่ที่ต้องการเสริมอาหารสมองและพัฒนาการให้กับลูกน้อย นมบำรุงสมอง ดีอย่างไร? การเลือกนมบำรุงสมองที่เหมาะสม ช่วยส่งเสริมสุขภาพสมองทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงเสริมสร้างความจำและพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมอง นมบำรุงสมองมีสารอาหารสำคัญ เช่น โอเมก้า 3 วิตามินบี วิตามินอี ซึ่งเป็นอาหารบำรุงสมองเด็ก ช่วยดูแลเซลล์สมองและสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ ช่วยเสริมสร้างความจำ ด้วยสารอาหารอย่างโคลีนและโอเมก้า 3 ในนมบำรุงสมอง มีส่วนช่วยในการพัฒนาความจำ เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกในการกินอะไรบำรุงสมอง ความจําดี เป็นแหล่งโปรตีนและสารอาหารครบถ้วน ไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงสมอง นมยังให้โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย เหมาะสำหรับทุกช่วงวัย นมบำรุงสมองและนมบำรุงลูก สามารถเสริมสร้างพื้นฐานการเจริญเติบโตและดูแลสุขภาพสมองตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ ทำไมนมบำรุงสมองถึงสำคัญ? นมบำรุงสมองสำคัญเพราะเป็นแหล่งของสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมองในเด็ก โดยเฉพาะในวัยที่ร่างกายและสมองกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว การได้รับสารอาหารที่เหมาะสมจากนมบำรุงสมองจะช่วยสนับสนุนให้เด็กมีความจำดี สมองไว และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ นมบำรุงลูกและอาหารบำรุงสมองเด็ก ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะขาดสารอาหารที่อาจกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว นมบำรุงสมองแบบไหนดี? หากกำลังมองหานมบำรุงสมองที่เหมาะสมกับแต่ละคน ควรพิจารณาทั้งวัตถุดิบ สารอาหาร และความเหมาะสมต่อสุขภาพแต่ละบุคคล นมบำรุงลูกที่มีสารอาหารหลากหลาย เช่น โอเมก้า 3 โปรตีน และแคลเซียม ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับครอบครัว และหากต้องการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้หรือแลคโตส นมพืชอย่างนมอัลมอนด์หรือนมถั่วเหลือง ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมเช่นกัน 1. นมอัลมอนด์ นมอัลมอนด์เป็นนมพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินอีและกรดไขมันดี มีสารอาหารที่ส่งเสริมการทำงานของสมอง เหมาะสำหรับคนที่แพ้นมวัวหรือต้องการหลีกเลี่ยงแลคโตส อาหารบำรุงสมองชนิดนี้ยังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ เพราะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของนมบำรุงสมองที่ปลอดจากไขมันอิ่มตัว 2. นมวัว นมวัวออร์แกนิคเต็มไปด้วยโปรตีน แคลเซียม และวิตามินบี 12 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบำรุงสมองและระบบประสาท สำหรับคนที่ต้องการอาหารสมองและเสริมสร้างกระดูก นมวัวถือเป็นหนึ่งในนมบำรุงลูกที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน 3. นมถั่วเหลือง นมถั่วเหลืองเป็นนมบำรุงสมองจากพืชที่ให้โปรตีนสูง มีสารไอโซฟลาโวน วิตามินบี และเลซิติน ช่วยดูแลระบบประสาทและบำรุงสมองเด็ก รวมทั้งเหมาะกับผู้ที่เลือกอาหารเสริมให้ลูกฉลาดโดยไม่รับโปรตีนจากสัตว์ 4. นมข้าวโพด นมข้าวโพดมีสารอาหารที่ให้พลังงาน พร้อมทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยดูแลสมอง เหมาะสำหรับเด็กที่ต้องการอาหารเสริมบำรุงสมองหรือผู้ใหญ่ที่ต้องการเพิ่มพลังงานระหว่างวัน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนมบำรุงสมองในกลุ่มนมพืช 5. นมถั่วพิสทาชิโอ นมถั่วพิสทาชิโอเป็นนมที่ให้กรดไขมันดี วิตามินอี และแร่ธาตุที่สำคัญ ช่วยดูแลระบบประสาทและการทำงานของสมอง นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่มองหาอาหารบำรุงสมองสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ต้องการลดปริมาณไขมันอิ่มตัว วิตามินบํารุงสมองในนมอัลมอนด์มีอะไรบ้าง? นมอัลมอนด์นอกจากจะเป็นแหล่งของกรดไขมันดีแล้ว ยังมีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยบำรุงสมอง เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาอาหารบำรุงสมองเด็กหรือบำรุงสมองในทุกช่วงวัย วิตามินอี วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากความเสื่อม ช่วยเสริมสร้างความจำ กรดไขมันโอเมก้า 3 โอเมก้า 3 มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการสมองและการทำงานของระบบประสาท แมกนีเซียม ช่วยในกระบวนการสร้างสารสื่อประสาทและช่วยให้การทำงานของสมองเป็นไปอย่างราบรื่น วิตามินบี…
- ใช้เวลาอ่านประมาณ: 2 นาที
- โพสต์เมื่อ
น้ำมันอัลมอนด์ กลายเป็นไอเท็มโปรดของคนรักสุขภาพและความงามในยุคนี้ เพราะน้ำมันชนิดนี้ไม่ได้มีดีแค่ช่วยบำรุงผิวและเส้นผมเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยคุณค่าจากธรรมชาติที่เหมาะกับผู้ที่ใส่ใจดูแลตัวเองอย่างแท้จริง ใครที่กำลังมองหาวิธีดูแลผิวพรรณแบบปลอดภัยและเป็นมิตรกับร่างกาย น้ำมันอัลมอนด์ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ บทความนี้ Butterfly Organic จะพาคุณไปรู้จักกับน้ำมันอัลมอนด์ ประโยชน์ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ พร้อมวิธีเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละคน น้ำมันอัลมอนด์ Almond Oil คืออะไร? น้ำมันอัลมอนด์ (Almond Oil) คือ น้ำมันธรรมชาติที่สกัดจากเมล็ดอัลมอนด์ ด้วยกระบวนการที่ช่วยคงคุณค่าไว้ครบถ้วน อุดมไปด้วยวิตามินอี กรดไขมัน และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่เหมาะกับการดูแลผิวและเส้นผม ทั้งนี้ น้ำมันอัลมอนด์ยังมี 2 ชนิด คือ น้ำมันอัลมอนด์หวาน (Sweet Almond Oil) และน้ำมันอัลมอนด์ขม โดยแบบ “สวีตอัลมอนด์” เป็นที่นิยมในงานดูแลสุขภาพมากกว่า เนื่องจากอ่อนโยนและปลอดภัยกับผิว สำหรับคนที่กำลังค้นหาวิธีดูแลผิวแบบธรรมชาติ น้ำมันอัลมอนด์จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก น้ำมันอัลมอนด์ ประโยชน์มีอะไรบ้าง? น้ำมันอัลมอนด์ขึ้นชื่อในเรื่อง “น้ำมันอัลมอนด์ สรรพคุณ” ที่หลากหลาย ตั้งแต่บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ช่วยลดการระคายเคือง ไปจนถึงเสริมสร้างสุขภาพเส้นผม นอกจากนี้ อัลมอนด์ประโยชน์ยังนิยมใช้ในกลุ่มคนรักสุขภาพที่ต้องการดูแลผิวพรรณและเส้นผมโดยไม่พึ่งสารเคมี ลดอาการบวมและความหมองคล้ำ น้ำมันอัลมอนด์ช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาอย่างอ่อนโยน ลดอาการบวมและความหมองคล้ำที่เกิดจากความเหนื่อยล้า ด้วยคุณสมบัติของวิตามินอีใน Sweet Almond Oil จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวบริเวณใต้ตาให้ดูสดใสและเปล่งประกายยิ่งขึ้น ลดรอยแผลให้จางลง หนึ่งในประโยชน์ของอัลมอนด์ที่น่าสนใจ คือ การช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นและรอยแตกลายต่าง ๆ ด้วยน้ำมันอัลมอนด์ สรรพคุณในการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ส่งเสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่ จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวอย่างปลอดภัย บำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและนุ่มสลวย สำหรับคนที่ประสบปัญหาผมแห้งเสีย น้ำมันอัลมอนด์คือผู้ช่วยอันดับต้น ๆ ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม พร้อมบำรุงให้ผมนุ่มลื่นและแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ อุดมไปด้วยกรดไขมันและวิตามินที่เหมาะกับการดูแลเส้นผมทุกประเภท รักษารังแคและอาการคัน Sweet Almond Oil มีคุณสมบัติในการปลอบประโลมหนังศีรษะ ช่วยลดอาการคันและปัญหารังแคได้อย่างอ่อนโยน เหมาะกับผู้ที่มองหาทางเลือกธรรมชาติในการดูแลหนังศีรษะและสุขภาพเส้นผมให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง ปรับโทนผิวโดยรวมให้สม่ำเสมอ น้ำมันอัลมอนด์มีประโยชน์ในการปรับสมดุลผิว ลดความแห้งกร้านและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูเนียนนุ่ม สุขภาพดี และเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ การบำรุงผิวด้วยน้ำมันสวีตอัลมอนด์ การใช้น้ำมันสวีตอัลมอนด์ (Sweet Almond Oil) ในการบำรุงผิวได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำมันชนิดนี้อ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน และสามารถซึมซาบได้ดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง รวมถึงฟื้นฟูผิวจากความแห้งกร้าน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย และต้องการดูแลผิวด้วยวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัย น้ำมันอัลมอนด์ เหมาะกับใคร? น้ำมันอัลมอนด์เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนรักสุขภาพและความงามที่ต้องการบำรุงผิวและผมด้วยวิธีธรรมชาติ ผู้ที่เหมาะกับน้ำมันอัลมอนด์มีดังนี้ ผู้ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย: เหมาะกับการบำรุงผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นและการปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน ผู้ที่มีปัญหาผมแห้งเสียและหนังศีรษะลอก: น้ำมันอัลมอนด์ช่วยฟื้นฟูผมเสียและคืนความสมดุลให้หนังศีรษะ คนที่ต้องการลดรอยหมองคล้ำและรอยแผลเป็น: ด้วยคุณสมบัติของเมล็ดอัลมอนด์ สรรพคุณในการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ผู้ที่ต้องการป้องกันผิวจากความแห้งกร้าน: เหมาะสำหรับดูแลผิวในทุกสภาพอากาศ ผู้ที่ใส่ใจการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผมจากธรรมชาติ: Almond Oil เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในกลุ่มคนรักสุขภาพ น้ำมันอัลมอนด์ ไม่เหมาะกับใคร? แม้ว่าน้ำมันอัลมอนด์จะอ่อนโยนกับผิวส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้หรือควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน ผู้ที่แพ้อัลมอนด์หรือถั่วเปลือกแข็ง: อาจเกิดการระคายเคืองหรือแพ้ ผู้ที่มีภาวะผิวหนังอักเสบเฉพาะที่: เช่น ผิวหนังอักเสบชนิดรุนแรง ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบขั้นรุนแรง: แม้น้ำมันอัลมอนด์จะไม่อุดตันผิวในคนส่วนใหญ่ แต่ในบางรายอาจไม่เหมาะสม เด็กเล็กหรือหญิงตั้งครรภ์: ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง น้ำมันอัลมอนด์ ต่างจากน้ำมันทั่วไปอย่างไร? แม้น้ำมันหลายชนิดจะนิยมนำมาใช้ดูแลผิวและผม แต่น้ำมันอัลมอนด์มีจุดเด่นเฉพาะตัวดังต่อไปนี้ ซึมซาบง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ: น้ำมันอัลมอนด์มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา จึงซึมเข้าสู่ผิวและเส้นผมได้รวดเร็ว ต่างจากน้ำมันบางชนิดที่มักทิ้งความมันไว้บนผิว…
- ใช้เวลาอ่านประมาณ: 3 นาที
- โพสต์เมื่อ
นมข้าวโอ๊ต ถือเป็นนมที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เนื่องจากในปัจจุบัน เทรนด์การทานอาหารรักสุขภาพกำลังได้รับความนิยมนั่นเอง ซึ่งหนึ่งในประเภทของการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือ Plant Base (แพลนต์เบส) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายๆ คนนิยมรับประทาน ไม่แพ้มังสวิรัติละวีแกนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาจมีหลายๆ คนยังไม่คุ้นเคยกับการทานแบบ Plant Base มากนัก ดังนั้น ก่อนที่เราจะเข้าไปทำความรู้จักกับนมโอ๊ต เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Plant Base คืออะไร และนมจากข้าวโอ๊ตเกี่ยวอะไรกับการทานอาหารประเภทนี้ Butterfly Organic มีคำตอบ