สารบัญบทความ
Toggleคุณเคยสงสัยไหมว่านมข้าวโอ๊ตคืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนรักสุขภาพ? ในยุคที่คนหันมาดูแลร่างกายและเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น นมโอ๊ตจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง Oat Milk เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้นมวัว ตอบโจทย์การกินแบบวีแกนและแพลนต์เบสที่กำลังมาแรง
ทำความรู้จักนมข้าวโอ๊ต เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากพืช

โอ๊ตมิลค์ คือ นมทางเลือกจากพืชที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ ด้วยรสชาติละมุนและคุณค่าทางโภชนาการ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงนมวัวหรือแพ้นมสัตว์ แต่ควรทำความรู้จักกับโอ๊ตมิลค์ให้ดีก่อนเลือกรับประทาน
ย้อนรอยความเป็นมาของนมข้าวโอ๊ต คืออะไร?
นมโอ้ตเริ่มมีต้นกำเนิดในยุโรปเหนือ โดยเฉพาะสวีเดนและสหราชอาณาจักร ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งผู้คนเริ่มมองหาทางเลือกจากพืชแทนนมวัว ด้วยรสชาติหวานนุ่มตามธรรมชาติและการย่อยที่ง่ายกว่านมจากสัตว์ ทำให้นมจากพืชค่อย ๆ เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ
- นมข้าวโอ๊ตต่างจากนมวัวและนมถั่วเหลืองอย่างไร?
นม Oat มีจุดเด่นที่แตกต่างจากนมวัวและนมถั่วเหลือง ตรงที่ทำจากพืช 100% ปราศจากแลคโตส คอเลสเตอรอล เหมาะกับผู้แพ้นมจากสัตว์หรือผู้ที่ต้องการลดไขมันอิ่มตัว ในขณะที่นมวัวมีโปรตีนสูงแต่มีแลคโตสและไขมันอิ่มตัวมากกว่า ส่วนนมถั่วเหลืองมีโปรตีนเทียบเท่าแต่บางคนอาจแพ้ถั่ว การเลือกดื่มนมโอ๊ตจึงเป็นทางเลือกที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ
เจาะลึกประโยชน์นมข้าวโอ๊ตต่อร่างกายที่คุณควรรู้

น้ำนมข้าวโอ๊ตเป็นเครื่องดื่มจากพืชที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุ ช่วยบำรุงร่างกาย ควบคุมน้ำหนัก เสริมสุขภาพหัวใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ ประโยชน์ของนมชนิดนี้ ได้แก่
- นมข้าวโอ๊ตช่วยคุมน้ำหนัก
นมโอ๊ตเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรีต่ำกว่านมวัวและนมถั่วเหลืองทั่วไป อีกทั้งยังมีไฟเบอร์จากข้าวโอ๊ตสูงทำให้รู้สึกอิ่มนาน จึงช่วยควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน
- ทางเลือกใหม่ของคนแพ้นมวัว
นมโอ๊ตเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้แพ้นมวัว เพราะปราศจากแลคโตสและคอเลสเตอรอล จึงลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้หรือปัญหาการย่อยนมวัวได้
- สารอาหารเด่นในนมโอ๊ต
นมข้าวโอ๊ตอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ดีต่อร่างกาย เช่น ไฟเบอร์ช่วยระบบย่อยอาหาร วิตามินบีรวมช่วยเพิ่มพลังงาน แร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมและธาตุเหล็ก สนับสนุนการทำงานของหัวใจกล้ามเนื้อ
นมข้าวโอ๊ต vs นมชนิดอื่น เลือกแบบไหนดีกว่ากัน?

Oat Milk กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น แต่เมื่อเทียบกับนมวัวหรือนมถั่วเหลือง แบบไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน? ความแตกต่างและจุดเด่นของนมแต่ละชนิด มีดังนี้
- นมข้าวโอ๊ต vs นมอัลมอนด์
นม Oat Milk และ นมอัลมอนด์ เป็นเครื่องดื่มจากพืชที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ แต่ทั้งสองมีจุดเด่นต่างกัน นมโอ๊ตมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มนาน เหมาะกับการควบคุมน้ำหนักและดูแลระบบย่อยอาหาร ในขณะที่นมอัลมอนด์ให้พลังงานต่ำกว่าและมีไขมันดีจากอัลมอนด์ ช่วยบำรุงหัวใจ แต่นมโอ๊ตจะมีคาร์โบไฮเดรตมากกว่าเหมาะกับผู้ที่ต้องการพลังงาน
- เปรียบเทียบนมข้าวโอ๊ตและนมวัว
นมโอ๊ตและนมวัว มีความแตกต่างทั้งด้านสารอาหารและความเหมาะสมต่อสุขภาพ นม Oat ทำจากพืช ปราศจากแลคโตส เหมาะกับผู้แพ้นมวัวหรือต้องการลดคอเลสเตอรอล มีไฟเบอร์สูงช่วยระบบย่อยอาหาร ในขณะที่นมวัวมีโปรตีนสูงกว่า เป็นแหล่งแคลเซียมธรรมชาติที่ดี แต่มีไขมันอิ่มตัวและแลคโตสที่บางคนไม่สามารถย่อยได้
- นมข้าวโอ๊ต กับ นมถั่วเหลือง
นมโอ๊ตและนมถั่วเหลืองเป็นสองทางเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่อยากดื่มนมจากพืช แต่มีจุดเด่นต่างกัน นมข้าวโอ็ตโดดเด่นด้วยไฟเบอร์สูง รสชาติหวานธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ต้องการช่วยระบบย่อยอาหารและควบคุมน้ำหนัก ส่วนนมถั่วเหลืองมีโปรตีนสูงใกล้เคียงนมวัว เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมโปรตีน โดยเฉพาะผู้ที่กินมังสวิรัติหรือวีแกน
รวมยี่ห้อนมข้าวโอ๊ตยอดฮิตที่สายเฮลท์ตี้ต้องลอง
หากคุณกำลังสงสัยว่า Oat Milk ยี่ห้อไหนอร่อย และเหมาะกับสไตล์การกินของคุณ? มาดูแบรนด์ยอดนิยมที่คนรักสุขภาพเลือกดื่มกันมากที่สุด
- 蝴蝶有机 รสชาติกลมกล่อม หอมละมุน ดื่มง่าย มีสารอาหารครบถ้วน
- Oatly แบรนด์ดังจากสวีเดน รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม เหมาะสำหรับชงกาแฟ
- Minor Figures สูตรครีมมี่ เน้นสำหรับคนดื่มลาเต้และคาปูชิโน่
- Alpro Oat ทางเลือกที่หาซื้อง่าย ราคากลาง รสชาติละมุน เหมาะสำหรับดื่มเดี่ยวหรือทำสมูทตี้
- Califia Farms แบรนด์พรีเมียมจากสหรัฐอเมริกา มีสูตรหลากหลาย ทั้ง Original และ Unsweetened
- 137 Degrees Oat Milk แบรนด์ไทยที่ตอบโจทย์คนคุมน้ำตาล เพราะมีสูตรไม่เติมน้ำตาล
- Nature’s Charm อีกหนึ่งแบรนด์สำหรับคนชอบรสชาติธรรมชาติ และเหมาะกับเมนูเบเกอรี่
วิธีเลือกนมข้าวโอ๊ตให้เหมาะทั้งสุขภาพและงบในกระเป๋า
การเลือก Oat Milk ไม่ได้ดูแค่รสชาติเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงสารอาหาร ราคา และความเหมาะสมกับเป้าหมายสุขภาพ ควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ก่อนตัดสินใจดื่ม
- รสชาติและคุณค่าทางโภชนาการของนมข้าวโอ๊ตแต่ละยี่ห้อ
แต่ละแบรนด์มีรสชาติและสูตรที่แตกต่างกัน บางยี่ห้อเน้นรสธรรมชาติ บางยี่ห้อปรับให้หวานละมุนเพื่อเอาใจคอกาแฟ นอกจากนี้ยังต่างกันในแง่ของแคลอรี โปรตีน และไขมัน ซึ่งเป็นคำตอบของหลายคนที่สงสัยว่า โอ๊ตมิลค์ กี่แคล โดยทั่วไปนมข้าวโอ๊ต 1 แก้ว (ประมาณ 240 มล.) จะมีพลังงานเฉลี่ย 90-130 กิโลแคลอรี
- ความแตกต่างด้านรสชาติของนมข้าวโอ๊ตแต่ละยี่ห้อ
บางแบรนด์ให้รสชาติข้าวโอ๊ตชัดเจน เหมาะสำหรับดื่มเพียว ๆ ในขณะที่บางแบรนด์ทำสูตรโฟมครีมมี่เพื่อใช้ในเมนูกาแฟ หากคุณชอบรสนุ่มละมุนสำหรับสมูทตี้ เลือกสูตร Original แต่ถ้าต้องการตัดรสหวานเลือกแบบ Unsweetened จะดีที่สุด
- คุณค่าทางโภชนาการของนมข้าวโอ๊ต
โอ๊ตมิลค์ไม่ได้มีแค่ไฟเบอร์ แต่ยังอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เสริมจากการฟอร์ติฟาย เช่น แคลเซียม วิตามินบี 12 และวิตามินดี จุดเด่นของนมข้าวโอ๊ตคือมี เบต้า-กลูแคน ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล
- ราคาและความคุ้มค่า เลือกนมข้าวโอ๊ตแบบไหนคุ้มที่สุด
ราคานมข้าวโอ๊ตในท้องตลาดแตกต่างกันมาก เริ่มตั้งแต่ 50-70 บาทต่อกล่อง ไปจนถึง 120-150 บาทสำหรับแบรนด์พรีเมียม
สูตรทำนมข้าวโอ๊ตโฮมเมด ทำง่ายได้ที่บ้าน

การทำนมข้าวโอ๊ตเองที่บ้านเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้ เพียงมีวัตถุดิบไม่กี่อย่างและอุปกรณ์พื้นฐาน คุณก็จะได้น้ำนมโอ๊ตที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ พร้อมปรับรสชาติให้เหมาะกับสไตล์ของคุณ
ส่วนผสมทำนมโอ๊ต
1. ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
2. น้ำสะอาด 3-4 ถ้วย
3. เกลือเล็กน้อย
4. น้ำผึ้งหรือเมเปิ้ลไซรัป
5. วานิลลาสกัด (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำนมโอ๊ตด้วยตัวเองง่าย ๆ
1. แช่ข้าวโอ๊ตในน้ำสะอาด 15-30 นาที เพื่อให้นุ่มและบดง่าย
2. เทน้ำแช่ออก ล้างข้าวโอ๊ตอีกครั้ง เพื่อลดความเหนียวและเมือก
3. ใส่ข้าวโอ๊ตและน้ำลงในเครื่องปั่น ปั่นประมาณ 30-45 วินาทีจนละเอียด
4. กรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อแยกกากออก
5. เติมน้ำผึ้งหรือเมเปิ้ลไซรัปตามชอบ พร้อมเกลือและวานิลลาเล็กน้อย
6. เก็บใส่ขวดในตู้เย็น ดื่มได้ 3-4 วัน
เคล็ดลับป้องกันนมโอ๊ตจับตัวเป็นเมือกให้นุ่มเนียน
ปัญหาที่หลายคนเจอเมื่อทำนมโอ๊ตเองคือ เนื้อสัมผัสข้นเหนียวและมีเมือก ซึ่งเกิดจากแป้งในข้าวโอ๊ตละลายออกมามากเกินไป วิธีแก้ไม่ยาก แค่ทำตามเทคนิคเหล่านี้ นมโอ๊ตของคุณจะเนียน ลื่น และน่าดื่ม
- อย่าแช่นานเกินไป การแช่ข้าวโอ๊ตเกิน 30 นาทีจะทำให้ปล่อยแป้งออกมามาก
- ล้างให้สะอาดหลังแช่ เทน้ำแช่ทิ้งและล้างข้าวโอ๊ตเพื่อลดแป้งส่วนเกิน
- ปั่นไม่นานเกินไป ปั่นประมาณ 30-45 วินาที
- ใช้น้ำเย็นจัด การใช้น้ำเย็นช่วยลดการเกิดเมือกได้มากกว่าน้ำอุณหภูมิห้อง
- กรองด้วยถุงกรองนมพืชหรือผ้าขาวบาง เพื่อให้ได้เนื้อนมเนียนใส ไม่มีเศษกากมากเกินไป
ข้อดีของนมโอ๊ตและสิ่งที่ควรระวังก่อนดื่ม

Oat Milk ข้อดี ข้อเสีย ที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกดื่ม เพื่อจะได้เลือกอย่างเหมาะสมกับสุขภาพของตัวเอง
ข้อดีที่ควรรู้
- เหมาะสำหรับคนแพ้นมวัวและแลคโตส
- ไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและทำให้อิ่มนาน
- ไขมันอิ่มตัวต่ำ จึงดีต่อสุขภาพหัวใจเมื่อเทียบกับนมสัตว์
- เหมาะกับสายวีแกนและมังสวิรัติ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมจากสัตว์
- รสชาติกลมกล่อมเข้ากับกาแฟและสมูทตี้ ทำให้เป็นที่นิยมในร้านคาเฟ่
ข้อควรระวังที่ต้องคำนึง
- น้ำตาลแฝงในสูตรสำเร็จรูป บางยี่ห้อมีการเติมน้ำตาลสูง ควรเลือกสูตร Unsweetened
- โปรตีนต่ำกว่านมวัว หากต้องการโปรตีนสูง อาจไม่ตอบโจทย์
- ราคาแพงกว่านมวัวและนมถั่วเหลือง โดยเฉพาะแบรนด์นำเข้า
- อาจมีสารเพิ่มความข้นหรือสารกันเสีย ในบางยี่ห้อที่ไม่ได้เป็นสูตรออร์แกนิก
- ไม่เหมาะสำหรับคีโตหรือโลว์คาร์บ เพราะนมข้าวโอ๊ตมีคาร์โบไฮเดรตค่อนข้างสูง
สรุป นมโอ๊ตคืออะไร? เหมาะกับใครบ้าง
นมข้าวโอ๊ต คือเครื่องดื่มจากเมล็ดข้าวโอ๊ต ผสมน้ำแล้วกรองจนได้รสชาติหอมละมุน ดื่มง่าย สำหรับคนที่รักการดูแลตัวเองหรือแพ้นมวัว 蝴蝶有机 คัดสรรนมโอ๊ตออร์แกนิกคุณภาพสูง ปลอดสารปรุงแต่ง ผลิตด้วยกระบวนการที่รักษาคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อให้คุณได้ดื่มความอร่อยและปลอดภัยในทุกวันอย่างมั่นใจ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับนมโอ๊ต
รสชาติของ Oat Milk ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ แต่ยี่ห้อที่คนชอบมากคือ Oatly, 137 Degrees, และ Butterfly Organic เพราะมีรสหวานธรรมชาติ หอมมัน เนื้อเนียนละมุน
ถ้าต้องการรสชาติกลมกล่อมและสารอาหารครบ Oatly และ Butterfly Organic เป็นตัวเลือกยอดนิยม แต่ถ้าเน้นออร์แกนิกแท้และปลอดสารปรุงแต่ง Butterfly Organic เหมาะมากสำหรับสายสุขภาพ
โอ๊ตมิลค์ 1 กล่อง (ประมาณ 180-250 มล.) จะมีพลังงานเฉลี่ย 80–130 กิโลแคลอรี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและสูตร ถ้าเป็นสูตรหวานน้อยหรือไม่เติมน้ำตาล แคลอรีจะต่ำกว่า
ไม่อ้วนถ้าดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เพราะโอ๊ตมิลค์มีไขมันต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล มีไฟเบอร์ช่วยให้อิ่มนาน แต่ถ้าเป็นสูตรหวานหรือใส่น้ำตาลมาก ควรดื่มอย่างพอดี
โอ๊ตมิลค์ 1 ช้อนชา (ประมาณ 5 มล.) มีพลังงานเฉลี่ย 2–4 กิโลแคลอรี ถ้าใส่ลงในกาแฟปริมาณเล็กน้อย ถือว่าน้อยมากและไม่ทำให้อ้วน
 
								 
															





 
								