สารบัญบทความ
Toggleโยเกิร์ต… หลายคนคุ้นเคยกับความอร่อยและประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่เคยสงสัยไหมว่าโยเกิร์ตทํามาจากอะไรกันแน่? เจ้าอาหารสีขาวเนื้อเนียนนุ่มที่ดูเรียบง่ายนี้ แท้จริงแล้วไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง แต่เป็นผลลัพธ์จากกระบวนการที่น่าทึ่งและส่วนผสมที่ลงตัว บทความนี้จะชวนคุณมาเจาะลึกทุกแง่มุมของโยเกิร์ต ตั้งแต่ส่วนผสมหลักและขั้นตอนการผลิต ไปจนถึงความแตกต่างระหว่างโยเกิร์ตที่เราพบเห็นทั่วไปกับโยเกิร์ตโฮมเมด และเหตุผลที่โยเกิร์ตบางชนิดมีคุณค่าทางโภชนาการที่โดดเด่นกว่าปกติ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาไขความลับของโยเกิร์ตไปด้วยกัน!
ไขความลับโยเกิร์ตส่วนผสมหลักที่สร้างสรรค์ทั้งรสชาติและสุขภาพ
โยเกิร์ต คือผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวที่ได้จากการหมักนมด้วยแบคทีเรีย “กรดแลคติก” (Lactic Acid Bacteria) การจะเข้าใจว่าโยเกิร์ตทำมาจากอะไรนั้น ต้องเริ่มต้นที่สองส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ นม และ จุลินทรีย์
นม พื้นฐานของโยเกิร์ตที่หลากหลาย
นมไม่ว่าจะเป็นนมวัว นมแพะ หรือนมจากพืช ล้วนเป็นวัตถุดิบหลักที่ส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและรสชาติของโยเกิร์ตโดยตรง สำหรับนมคุณภาพสูงนั้น บัตเตอร์ฟลาย ออร์แกนิค เป็นฟาร์มที่โดดเด่นในการผลิต นมออร์แกนิค 100% จากวัวที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ ทำให้ได้น้ำนมปราศจากฮอร์โมนและยาปฏิชีวนะ และเป็นฟาร์มเดียวในอาเซียนที่ได้รับมาตรฐาน USDA ซึ่งการันตีถึงคุณภาพที่บริสุทธิ์
จุลินทรีย์ พระเอกผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนรูป
จุลินทรีย์ หรือ “หัวเชื้อโยเกิร์ต” เช่น Lactobacillus bulgaricus และ Streptococcus thermophilus คือผู้เปลี่ยนน้ำตาลแลคโตสในนมให้เป็นกรดแลคติก ทำให้โยเกิร์ตมีรสเปรี้ยวและเกิดการจับตัวเป็นเนื้อข้นหนืด ยิ่งไปกว่านั้น จุลินทรีย์บางชนิดยังเป็น “โพรไบโอติก” ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ดีที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำให้โยเกิร์ตเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูง
เบื้องหลังความอร่อย กระบวนการผลิตโยเกิร์ตที่เปลี่ยนนมให้เป็นอาหารมหัศจรรย์
หลังจากที่เราได้รู้กันไปแล้วว่า โยเกิร์ตทำมาจากอะไร คือนมและจุลินทรีย์ ขั้นตอนต่อไปคือการเปลี่ยนนมให้กลายเป็นโยเกิร์ต ซึ่งเกิดจากการนำแบคทีเรียกลุ่มกรดแลคติก (Lactic Acid Bacteria) มาหมักกับน้ำนม แบคทีเรียเหล่านี้จะทำให้โปรตีนในน้ำนมเปลี่ยนโครงสร้าง กลายเป็นโยเกิร์ตที่มีรสเปรี้ยวและมีประโยชน์

กระบวนการผลิตหลัก ๆ ประกอบด้วย
- การเตรียมและพาสเจอร์ไรซ์นม นมจะถูกตรวจสอบคุณภาพ ปรับสภาพ และให้ความร้อนเพื่อกำจัดจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการ
- การเติมหัวเชื้อและบ่ม นมที่เย็นลงจะถูกเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์ แล้วนำไปบ่มในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อให้จุลินทรีย์ทำงานเปลี่ยนแลคโตสเป็นกรดแลคติก ทำให้เกิดเนื้อโยเกิร์ต
- การทำให้เย็นลงและบรรจุ เมื่อได้โยเกิร์ตตามต้องการ จะถูกนำไปทำให้เย็นเพื่อหยุดการทำงานของจุลินทรีย์ ก่อนจะนำไปคนหรือบรรจุลงภาชนะ โดยโยเกิร์ตชนิดคงตัว ประโยชน์จะถูกบ่มในภาชนะบรรจุโดยตรง ซึ่งช่วยรักษาจุลินทรีย์ได้ดีกว่าในบางกรณี
เคล็ดลับความอร่อย ปัจจัยที่กำหนดรสชาติและเนื้อสัมผัสของโยเกิร์ต
รสชาติและเนื้อสัมผัสของโยเกิร์ตที่แตกต่างกันนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย คุณอาจเคยเห็นหางนม (Whey) ซึ่งเป็นของเหลวใส ๆ บนหน้าโยเกิร์ต นี่คือโปรตีนคุณภาพสูงที่มีประโยชน์และไม่ได้แปลว่าโยเกิร์ตเสีย
ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อรสชาติและเนื้อสัมผัสของโยเกิร์ต ได้แก่
- ประเภทของนมที่ใช้ นมวัว นมแพะ หรือนมจากพืช ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ต่างกัน
- ชนิดและปริมาณของจุลินทรีย์ จุลินทรีย์แต่ละสายพันธุ์ส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว
- อุณหภูมิและระยะเวลาในการบ่ม การควบคุมสองสิ่งนี้สำคัญต่อความเปรี้ยวและการจับตัวของเนื้อโยเกิร์ต
- การเติมส่วนผสมอื่น ๆ เช่น น้ำตาล ผลไม้ หรือสารเพิ่มความคงตัว ก็มีผลต่อรสชาติและความหนืดของโยเกิร์ต
โยเกิร์ตมีกี่ประเภท ส่วนผสมและความแตกต่างที่คุณควรรู้
หากถามว่าโยเกิร์ตมีกี่ประเภท ก็ตอบได้ว่ามีหลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีส่วนผสมที่ต่างกันออกไป ไม่ใช่ทุกยี่ห้อจะเป็นโพรไบโอติกเหมือนกันเสมอไป

นี่คือโยเกิร์ตประเภทหลัก ๆ ที่คุณควรรู้
- โยเกิร์ตธรรมชาติ (Plain Yogurt) มีแค่นมและหัวเชื้อจุลินทรีย์เป็นหลัก
- กรีกโยเกิร์ต (Greek Yogurt) เนื้อข้นหนืด โปรตีนสูง เพราะผ่านการแยกหางนมออก
- โยเกิร์ตปรุงแต่งรส (Flavored Yogurt) มีการเติมน้ำตาล ผลไม้ และสารแต่งกลิ่นสี
- โยเกิร์ตพร้อมดื่ม (Drinking Yogurt) ลักษณะเหลว คล้ายเครื่องดื่ม มักมีน้ำตาลและกลิ่นรส
- โยเกิร์ตจากพืช (Plant-based Yogurt) ทำจากนมพืช เหมาะสำหรับคนแพ้นมวัวหรือทานมังสวิรัติ
เพิ่มสีสันให้โยเกิร์ตเติมอะไรได้บ้าง เพื่อรสชาติและคุณประโยชน์ที่ต่างออกไป
เมื่อคุณทำโยเกิร์ตเอง คุณสามารถควบคุมชนิดของนมที่ใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นนมไขมันต่ำ นมไขมันปกติ นมถั่วเหลือง หรือนมแพะ รวมถึงเลือกโปรตีนและโพรไบโอติกที่ต้องการ
นอกจากนมและหัวเชื้อจุลินทรีย์แล้ว ยังสามารถเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ เข้าไปในโยเกิร์ต ได้แก่
- น้ำตาลและสารให้ความหวาน เพื่อปรับรสชาติให้หวานขึ้น
- ผลไม้สด ผลไม้อบแห้ง แยม เพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัส
- ธัญพืช ถั่ว เมล็ดพืช เสริมใยอาหารและคุณค่าทางโภชนาการ
- สารเพิ่มความคงตัว (Stabilizers) เช่น เจลาตินหรือเพคติน เพื่อให้เนื้อโยเกิร์ตคงตัว ไม่แยกชั้น
โยเกิร์ตโฮมเมด vs. โยเกิร์ตอุตสาหกรรม เลือกแบบไหนดีสำหรับคุณ?
เมื่อพูดถึงโยเกิร์ตทำมาจากอะไร ในแง่ของการผลิต มีความแตกต่างระหว่างโยเกิร์ตโฮมเมดกับโยเกิร์ตอุตสาหกรรม

โยเกิร์ตโฮมเมด อิสระในการสร้างสรรค์
คุณสามารถควบคุมส่วนผสมได้ 100% ตั้งแต่ชนิดของนม เช่น นม Grass-Fed หรือ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค 100% ทุกส่วนประกอบจากฟาร์มที่ใส่ใจรายละเอียดอย่าง บัตเตอร์ฟลาย ออร์แกนิค ไปจนถึงการปรับรสชาติ ทำให้ได้โยเกิร์ตที่สดใหม่และอาจมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตสูงกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องใส่ใจเรื่องสุขอนามัยในการผลิต
โยเกิร์ตอุตสาหกรรม สะดวกสบายพร้อมมาตรฐาน
ข้อดีคือความสะดวกสบายหาซื้อง่าย และมีหลากหลายรสชาติ ผู้ผลิตมีมาตรฐานการผลิตที่สูง ก็จะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ แต่ควรพิจารณาปริมาณน้ำตาล สารปรุงแต่ง หรือสารเพิ่มความคงตัว ที่อาจมีอยู่มากในบางผลิตภัณฑ์ การอ่านฉลากโภชนาการจึงเป็นสิ่งสำคัญ
สรุปโยเกิร์ตเพื่อนคู่สุขภาพจากทั่วทุกมุมโลก
ไม่ว่าคุณจะสงสัยว่าโยเกิร์ตทำมาจากอะไรหรือแม้แต่โยเกิร์ต มาจากประเทศอะไร (ซึ่งมีประวัติยาวนานในหลายวัฒนธรรม) สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ หากถามว่าโยเกิร์ต เป็นอาหารประเภทใด มันเป็นผลิตภัณฑ์นมที่เกิดจากจุลินทรีย์

การทำความเข้าใจส่วนผสมและกระบวนการผลิตจะช่วยให้คุณเลือกซื้อหรือทำโยเกิร์ตเองได้ดียิ่งขึ้น โยเกิร์ตไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะหากเลือกโยเกิร์ตคุณภาพสูง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโยเกิร์ตทำมาจากอะไร
โยเกิร์ตหลัก ๆ ทำมาจากนมและหัวเชื้อจุลินทรีย์ นอกจากนี้ ผู้ผลิตอาจเติมส่วนผสมอื่น ๆ เช่น น้ำตาล ผลไม้ สารแต่งกลิ่น สี หรือสารเพิ่มความคงตัว เพื่อเพิ่มรสชาติและความหลากหลาย
โดยทั่วไปโยเกิร์ตมีประโยชน์ แต่โยเกิร์ตที่เติมน้ำตาลมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้ นอกจากนี้ ผู้ที่แพ้นมวัวหรือมีภาวะไม่ทนต่อแลคโตสควรเลือกโยเกิร์ตจากพืชหรือโยเกิร์ตที่ปราศจากแลคโตสแทน
โยเกิร์ตทำมาจากนมและหัวเชื้อจุลินทรีย์ โดยจุลินทรีย์จะเปลี่ยนน้ำตาลแลคโตสในนมให้เป็นกรดแลคติก ซึ่งทำให้โปรตีนในนมจับตัวกันกลายเป็นเนื้อโยเกิร์ตที่เราคุ้นเคย
ผู้ที่แพ้นมวัวหรือแพ้โปรตีนในนมวัว รวมถึงผู้ที่มีภาวะไม่ทนต่อแลคโตส ควรหลีกเลี่ยงโยเกิร์ตจากนมวัว และพิจารณาเลือกบริโภคโยเกิร์ตที่ปราศจากแลคโตส หรือโยเกิร์ตจากพืชแทน
โยเกิร์ตถือเป็นอาหารแปรรูปชนิดหนึ่ง เนื่องจากผ่านกระบวนการหมักโดยจุลินทรีย์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีจากวัตถุดิบตั้งต้นคือนม ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณสมบัติแตกต่างออกไป