ชวนรู้จักน้ำตาลแลคโตสคืออะไร พบในอาหารประเภทไหนบ้าง

Share On: Facebook Line
Share On: Facebook Line
Table of Contents

โลกของอาหารและโภชนาการ อาจเคยได้ยินคำว่าน้ำตาลแลคโตสอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่แพ้นมวัวหรือมีอาการไม่สบายท้องหลังดื่มนม แต่แท้จริงแล้วน้ำตาลแลคโตสคืออะไรกันแน่ เราจะพบมันได้ในอาหารชนิดไหนบ้าง Butterfly Organic จะพาไปทำความรู้จักน้ำตาลแลคโตสให้มากขึ้น เพื่อให้คุณเข้าใจร่างกายตัวเองได้ดีขึ้น และสามารถเลือกรับประทานอาหารได้อย่างเหมาะสม

น้ำตาลแลคโตสคืออะไร

น้ำตาลแลคโตส หรือ lactose คือ น้ำตาลตามธรรมชาติที่พบในนมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมวัว นมแพะ ชีส และโยเกิร์ต หากร่างกายผลิตเอนไซม์แลคเตส (lactase) ไม่เพียงพอ น้ำตาลแลคโตสจะไม่ถูกย่อยและเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ เกิดการหมักโดยจุลินทรีย์ ทำให้เกิดก๊าซและกรด ส่งผลให้มีอาการท้องอืด หรือท้องเสีย เรียกว่า ภาวะไม่ทนต่อแลคโตส (lactose Intolerance) ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้บางคนต้องเลือกดื่มนมแลคโตสฟรีแทน

เข้าใจโครงสร้างของน้ำตาลแลคโตส

น้ำตาลแลคโตสเป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ (disaccharide) เกิดจากการรวมตัวกันของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide) สองชนิดคือ น้ำตาลกลูโคส และ น้ำตาลกาแลคโตส โมเลกุลทั้งสองเชื่อมต่อกันด้วยพันธะไกลโคไซด์ (glycosidic bond) เป็นพันธะแบบ β-1,4 ซึ่งเอนไซม์แลคเตสในร่างกายจะทำหน้าที่สลายพันธะ β-1,4 นี้ เพื่อแยกแลคโตสออกเป็นกลูโคสและกาแลคโตส เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ แต่ถ้าร่างกายมีเอนไซม์นี้น้อยลงหรือไม่ทำงาน ก็จะทำให้เกิดภาวะไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้นั่นเอง

ลักษณะของน้ำตาลแลคโตส

น้ำตาลแลคโตสบริสุทธิ์จะมีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาว ไม่มีกลิ่น มีรสหวาน แต่น้อยกว่าน้ำตาลซูโครส โดยมีความหวานประมาณ 20-50% ของซูโครส ทำให้สามารถนำไปใช้ในปริมาณที่มากขึ้นได้โดยไม่ทำให้ผลิตภัณฑ์หวานเกินไป น้ำตาลแลคโตสสามารถละลายได้ในน้ำ โดยความสามารถในการละลายจะเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิ 

3 กลไกของร่างกายในการย่อยน้ำตาลแลคโตส

1. การผลิตเอนไซม์แลคเตส

เอนไซม์แลคเตสเป็นโปรตีนที่สร้างขึ้นจากเซลล์ที่ผนังลำไส้เล็กส่วนต้น ปริมาณการผลิตเอนไซม์แลคเตสจะมากที่สุดตั้งแต่แรกเกิด จากนั้นจะค่อย ๆ ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะย่อยไม่ย่อยน้ำตาลแลคโตส หรือภาวะไม่ทนต่อแลคโตสในผู้ใหญ่

2. การสลายพันธะ

เมื่ออาหารที่มีน้ำตาลแลคโตสมาถึงลำไส้เล็ก เอนไซม์แลคเตสจะเข้าไปสลายพันธะที่เชื่อมระหว่างน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวสองชนิดคือ กลูโคส และ กาแลคโตส 

3. การดูดซึมน้ำตาลแลคโตส

เมื่อน้ำตาลแลคโตสถูกสลายเป็นกลูโคสและกาแลคโตสเรียบร้อยแล้ว น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวทั้งสองชนิดนี้จะถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานต่อไป

ประเภทอาหารที่มักพบน้ำตาลแลคโตส

ถ้าสงสัยว่าน้ำตาลแลคโตสมีในอะไรบ้าง ตอบได้เลยว่ามักพบน้ำตาลแลคโตสในอาหารและเครื่องดื่มที่มาจากนมและผลิตภัณฑ์นม โดยแหล่งที่พบบ่อย ได้แก่

ประเภทอาหารตัวอย่างอาหาร
นมสดและนมดิบนมวัว นมแกะ นมแพะ
ผลิตภัณฑ์นมโยเกิร์ต ครีม เนย นมข้นหวาน นมข้นจืด
ชีสชีสสด (Fresh cheese) เช่น มอสซาเรลลา, ครีมชีส, ริคอตต้า
ไอศกรีมและของหวานจากนมไอศกรีม พุดดิ้ง มิลค์เชค
อาหารสำเร็จรูปบางชนิดซุปกึ่งสำเร็จ, ขนมปัง, บิสกิต, ช็อกโกแลตนม (มักมีผงนมผสม)
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร/ยาวิตามินหรือยาบางชนิดใช้แลคโตสเป็นสารเติมเต็ม (Excipient)

แม้บางอาหารจะไม่ได้มีรสนมชัดเจน แต่อาจมีส่วนผสมของนมผงหรือนมในกระบวนการผลิต จึงควรอ่านฉลากโภชนาการก่อนเลือกซื้อ โดยเฉพาะผู้ที่แพ้น้ำตาลแลคโตส

ตัวอย่างปริมาณของน้ำตาลแลคโตสในนม และผลิตภัณฑ์จากนม

ผลิตภัณฑ์จากนม (250 มล.)ปริมาณน้ำตาลแลคโตส (กรัม)
นมข้นหวาน24
นมวัว (ขาดมันเนย/พร่องมันเนย/ธรรมดา)12
ไอศกรีม12
นมแพะ9
ครีม8
Yogurt5
ชีส1
เนยและมาการีนมีน้อยมาก

สาเหตุของการแพ้น้ำตาลแลคโตส

การแพ้น้ำตาลแลคโตส หรือ ภาวะไม่ทนต่อแลคโตส คือ ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลตามธรรมชาติในนม และผลิตภัณฑ์จากนมได้อย่างสมบูรณ์ สาเหตุหลักเกิดจากการที่ลำไส้เล็กผลิตเอนไซม์แลคเตสไม่เพียงพอ เมื่อน้ำตาลแลคโตสที่ไม่ถูกย่อยเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ แบคทีเรียจะทำการหมักจนเกิดก๊าซและกรด ทำให้มีอาการ เช่น ท้องอืด ปวดท้อง ท้องเสีย สาเหตุอื่น ๆ ของการแพ้น้ำตาลแลคโตส เช่น พันธุกรรม, การเปลี่ยนแปลงตามวัย, โรคหรือการบาดเจ็บของลำไส้เล็ก หรือภาวะชั่วคราวหลังป่วย 

ผู้แพ้น้ำตาลแลคโตส ควรเลือกรับประทานอาหารอย่างไร

ในอดีตอาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มนม แต่ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องงดนม 100% เสมอไป แนวทางที่ Butterfly Organic ขอแนะนำ คือ การเลือกดื่มนมแลคโตสฟรี เนื่องจากผ่านกระบวนการย่อยน้ำตาลแลคโตสออกแล้ว จึงไม่ทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือท้องเสีย รสชาติใกล้เคียงนมปกติ และยังคงคุณค่าทางโภชนาการ หรือสามารถดื่มนมประเภทอื่นได้ เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ นมข้าวโอ๊ต หรือนมพิสตาชิโอ แต่หากคุณกังวลว่าตัวเองจะมีอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส อาจจะหลีกเลี่ยงการดื่มนม และหลีกเลี่ยงการรับประทานผลิตภัณฑ์นมที่มีน้ำตาลแลคโตสสูง เช่น นมวัว, นมแพะ, นมแกะ, ชีส, ไอศกรีม, นมข้นหวาน, นมข้นจืด 

วิธีตรวจอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส

1. การทดสอบโดยการงดผลิตภัณฑ์จากนม

  • เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
  • ลองงดอาหารและเครื่องดื่มที่มีแลคโตสเป็นส่วนประกอบ ประมาณ 2-3 สัปดาห์
  • หากมีอาการท้องอืด ท้องเสีย หรือปวดท้องดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ให้ลองกลับมาบริโภคนมในปริมาณน้อย ๆ เพื่อสังเกตอาการอีกครั้ง
  • ถ้าอาการกลับมา แสดงว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีแพ้น้ำตาลแลคโตส

2. การทดสอบลมหายใจด้วยไฮโดรเจน

  • ผู้เข้ารับการทดสอบจะได้รับเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลแลคโตสในปริมาณที่กำหนด
  • จากนั้นจะมีการวัดปริมาณแก๊สไฮโดรเจนในลมหายใจเป็นระยะ ๆ
  • ถ้าผู้เข้ารับการทดสอบแพ้น้ำตาลแลคโตส แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่จะย่อยแลคโตส และปล่อยแก๊สไฮโดรเจนออกมา ทำให้มีปริมาณแก๊สไฮโดรเจนในลมหายใจสูงกว่าปกติ

ผลิตภัณฑ์นมที่ไม่มีน้ำตาลแลคโตส จาก Butterfly Organic

1. น้ำนมอัลมอนด์ ออริจินัล

น้ำนมอัลมอนด์ ออริจินัล ขึ้นชื่อเรื่องการดื่มเพื่อลดน้ำหนัก มีกรดไฟติก ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการดูดซึมของเหล็กสังกะสีและแมกนีเซียม ไม่มีคอเลสเตอรอล ไขมันอิ่มตัวต่ำ เป็นนมโปรตีนสูงที่ให้พลังงานต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 30 แคลอรี่ต่อปริมาณ 200 ml.

2. น้ำนมอัลมอนด์ ไม่หวาน

น้ำนมอัลมอนด์ ไม่หวาน ผลิตจากอัลมอนด์ทั้งเมล็ดรวมเยื่อหุ้ม รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม สามารถดื่มแทนมื้ออาหาร หรือดื่มเป็นของว่างก็ได้ ช่วยให้อิ่มท้องนาน ลดความอยากอาหาร

3. น้ำนมอัลมอนด์ ผสมเม็ดเจีย

น้ำนมอัลมอนด์ ผสมเม็ดเจีย ผลิตจากน้ำนมที่ได้จากถั่วอัลมอนด์ ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตจากธรรมชาติ ออร์แกนิค 100% นอกจากนั้นยังเติมเมล็ดเจียเข้าไป ช่วยเพิ่มไฟเบอร์ อิ่มท้องนานขึ้น และเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารอีกด้วย

4. น้ำนมอัลมอนด์คีโต สูตรไม่เติมน้ำตาล

น้ำนมอัลมอนด์คีโต สูตรไม่เติมน้ำตาล ผลิตจากอัลมอนด์ทั้งเมล็ดรวมเยื่อหุ้ม ไม่สกัดแยกน้ำมัน พร้อมเสริมประโยชน์ให้มากยิ่งขึ้นด้วยเมล็ดทานตะวัน ไม่มีน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก (น้อยกว่า 1 กรัม) 90% ของแคลอรี่ทั้งหมด เป็นไขมันดีที่มาจากอัลมอนด์ และเมล็ดทานตะวันเท่านั้น รสชาติเข้มข้น หอมมันขึ้น 

เลือกดื่มนมไม่มีน้ำตาลแลคโตสอย่างมั่นใจ เลือกผลิตภัณฑ์จาก Butterfly Organic

น้ำตาลแลคโตสเป็นน้ำตาลธรรมชาติในนมที่บางคนไม่สามารถย่อยได้ ทำให้เกิดอาการท้องอืด ปวดท้อง หรือท้องเสีย สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องการแพ้น้ำตาลแลคโตส การเลือกผลิตภัณฑ์นมแลคโตสฟรีจึงเป็นทางออกที่ดี โดย Butterfly Organic มีนมแลคโตสฟรีคุณภาพสูง รสชาติอร่อย และคงคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ให้คุณดื่มนมได้อย่างสบายใจและปลอดภัยต่อระบบย่อยอาหาร

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

น้ําตาลแลคโตสมีประโยชน์อะไรบ้าง

น้ำตาลแลคโตสเป็นแหล่งพลังงานสำคัญสำหรับร่างกาย ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟัน นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น

น้ําตาลแลคโตสมีข้อเสียอะไรบ้าง

ข้อเสียหลักของน้ำตาลแลคโตสจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการไม่สบายท้อง เช่น ท้องอืด ท้องเสีย หรือปวดท้องได้ง่ายหลังการบริโภคนมและผลิตภัณฑ์จากนม

กินน้ําตาลแลคโตสแล้วจะอ้วนไหม

การบริโภคน้ำตาลแลคโตสไม่ได้ทำให้อ้วนโดยตรง แต่การบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมที่มีน้ำตาลแลคโตสสูง เช่น นมข้นหวาน หรือไอศกรีม ซึ่งมักมีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูงต่างหากที่อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้

น้ำตาลแลคโตสไม่เหมาะกับใคร

ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง เพราะร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมน้ำตาลแลคโตสได้ ส่งผลให้เกิดอาการไม่สบายท้องเมื่อบริโภคนมหรือผลิตภัณฑ์จากนม

แพ้น้ำตาลแลคโตสห้ามรับประทานอะไร

ถ้ามีภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง ควรหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณอาหารที่มีแลคโตสสูง เช่น นมวัว นมแพะ โยเกิร์ตบางชนิด ไอศกรีม ครีม และเนยแข็งบางประเภท อย่างไรก็ตาม สามารถทดลองทานในปริมาณน้อย ๆ เพื่อดูอาการได้

น้ำตาลแลคโตสอยู่ในอาหารประเภทใดบ้าง

น้ำตาลแลคโตสพบได้ในนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นหลัก ได้แก่ นมวัว นมแพะ นมแม่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น โยเกิร์ต ไอศกรีม ชีส ครีม และนมข้นหวาน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ Privacy Policy และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า