ทำความรู้จัก ลูกเดือย สุดยอดธัญพืชที่คนรักสุขภาพต้องลอง

Picture of Butterfly Organic

Butterfly Organic

สารบัญบทความ

ลูกเดือย คือ ธัญพืชหน้าตาธรรมดาแต่เต็มไปด้วยคุณค่าที่ไม่ธรรมดา เพราะลูกเดือย ประโยชน์มีแบบจัดเต็ม และอุดมไปด้วยสารอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีนจากพืช ไฟเบอร์ แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฯลฯ Butterfly Organic จะพาสาย Healthy ไปทำความรู้จักสุดยอดธัญพืชครบทุกมิติ เจาะลึก 6 ประโยชน์ ลูกเดือยที่ทำให้หลายคนยกให้เป็นไอเทมสุขภาพประจำบ้าน พร้อมเสิร์ฟไอเดียเมนูสุดสร้างสรรค์ อร่อยแบบเฮลตี้ ทานง่าย ได้สุขภาพ และปิดท้ายด้วยข้อควรระวังของลูกเดือยที่ควรรู้ไว้ก่อนเลือกทาน

ลูกเดือย คืออะไร? ทำความรู้จักธัญพืชเม็ดเล็ก แต่ประโยชน์เกินตัว

ลูกเดือย คือ ธัญพืชชนิดหนึ่งในตระกูลข้าว เมล็ดกลม เปลือกแข็ง สีขาวขุ่น เมื่อนำไปต้มจะมีเนื้อนุ่มหนึบและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทานง่ายและอิ่มท้อง ช่วยบำรุงผิว เสริมภูมิคุ้มกัน ควบคุมน้ำหนัก และระบบขับถ่ายได้อย่างตรงจุด ลูกเดือยจึงเป็นธัญพืชที่สายสุขภาพนิยมซื้อไว้ติดบ้าน 

เปิดคุณค่าทางโภชนาในลูกเดือย สารอาหาร มีอะไรบ้าง?

ลูกเดือย เป็นธัญพืชที่มีแคลอรีประมาณ 360 Kcal. เท่านั้น (ปริมาณ 100 กรัม) และยังอุดมไปด้วยสารอาหาร-แร่ธาตุสำคัญ โดยในลูกเดือย 100 กรัม มีสารอาหารโดยประมาณ ดังนี้

  • พลังงาน 360-370 Kcal
  • โปรตีน 11 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 72.8 กรัม
  • ไขมัน 4.22 กรัม
  • ไฟเบอร์ 8.5 กรัม
  • แคลเซียม 8 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 3.01 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 114 มิลลิกรัม
  • แมงกานีส 1.63 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 285 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 195 มิลลิกรัม
  • โซเดียม 5 มิลลิกรัม
  • ซิงก์ 1.68 มิลลิกรัม
  • วิตามิน B1, B2 และไนอาซิน

ลูกเดือย ประโยชน์ 6 อย่าง ที่คนรักสุขภาพต้องลอง

ใครว่าของอร่อยจะต้องอ้วนอย่างเดียว ลบความเชื่อนั้นทิ้งไปได้เลย เพราะลูกเดือย อัดแน่นไปด้วยสรรพคุณเน้น ๆ ที่ช่วยให้อิ่มท้องแบบไม่ต้องกลัวอ้วนแล้ว ยังดีต่อสุขภาพแบบรอบด้าน สำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารเฮลตี้ อร่อย แถมทานได้แบบไม่รู้สึกผิด ห้ามพลาด 6 ลูกเดือยกับคุณประโยชน์สุดล้ำ สุดยอดธัญพืชที่คนรักสุขภาพต้องเติมทุกมื้อ

1. มีไฟเบอร์และกรดไขมันไม่อิ่มตัว ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันไม่ดี (LDL) ในเลือด

2. คาร์โบไฮเดรตในลูกเดือยย่อยช้า ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงเร็ว เหมาะกับผู้ที่มีโรคเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล

3. มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ

4. มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟีนอล และวิตามิน B ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้น

5. ในแพทย์แผนจีนและแผนไทยใช้ลูกเดือยในการช่วยขับปัสสาวะ ลดการบวมน้ำ และความร้อนในร่างกาย

6. มีกรดอะมิโนบางชนิด ซึ่งมีส่วนช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับ

รวม 5 ไอเดียจากลูกเดือย เมนูอิ่มอร่อยแบบสายเฮลตี้

รวมไอเดีย 5 เมนูเฮลตี้จากลูกเดือย อร่อย ทำง่าย ครบทั้งคาวและหวาน เอาใจคนรักสุขภาพที่อยากอิ่มท้องแบบไม่รู้สึกผิด 

1. โจ๊กลูกเดือยผักรวม : เมนูโจ๊กแบบไม่ง้อข้าว แค่ใช้ลูกเดือยต้มแทนข้าว เติมผักหลากสี เพิ่มเต้าหู้หรืออกไก่ ปรุงรสเบา ๆ ได้มื้อเช้าที่อิ่มท้องแถมแคลน้อยด้วย

2. ข้าวอบลูกเดือย : ผสมลูกเดือยกับข้าวกล้อง แล้วอบกับเห็ด เต้าเจี้ยว และน้ำมันงา

3. สลัดลูกเดือยธัญพืช : ต้มลูกเดือยให้สุก คลุกกับควินัว ถั่วลันเตา มะเขือเทศ และน้ำสลัดงาญี่ปุ่น อร่อยเบา ๆ ได้ไฟเบอร์และโปรตีนเต็มคำ

4. ลูกเดือยต้มน้ำลำไย (หวานน้อย) : เมนูคลาสสิกสำหรับคนที่อยากทานของหวานแค่ไม่อยากรู้สึกผิด แค่ต้มลูกเดือยกับลำไยแห้ง เติมน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย แค่นี้ก็ได้เมนูของหวานแบบเย็นชื่นใจ หมดกังวลเรื่องน้ำตาลพุ่ง

5. พุดดิ้งลูกเดือยมะพร้าวอ่อน : ผสมลูกเดือยต้มกับนมอัลมอนด์ เจลาติน และเนื้อมะพร้าวอ่อน แช่เย็นให้เซตตัว เป็นขนมหวานที่ทั้งอร่อยและเฮลตี้สุด ๆ

ก่อนทานต้องรู้กับ 5 ข้อควรระวังในการรับประทานลูกเดือย

ถึงลูกเดือยจะเป็นธัญพืชเพื่อสุขภาพ แต่ถ้าทานผิดวิธี อาจกลายเป็นโทษกับร่างกายได้ เช็ก 5 ข้อควรระวังในการทานลูกเดือย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีภาวะผิดปกติทางร่างกายหรืออยู่ในช่วงที่ร่างกายมีความอ่อนไหว ไม่ว่าจะเป็น

1. ผู้ที่ตั้งครรภ์และอยู่ระหว่างการให้นมบุตร

ลูกเดือยอาจมีฤทธิ์กระตุ้นมดลูก ซึ่งอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ในระยะเริ่มต้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแท้งได้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานในช่วงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 4 เดือนแรก รวมถึงในช่วงให้นมบุตรด้วย

2. ผู้ป่วยเบาหวาน

ถึงแม้ลูกเดือยจะมีคุณสมบัติในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดจริง แต่ถ้ารับประทานร่วมกับยาลดน้ำตาลในเลือด อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำกว่าปกติได้ ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเป็นประจำ

3. ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด

ควรหยุดรับประทานลูกเดือยอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพราะอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด และอาจทำให้แผลหลังผ่าตัดหายช้ากว่าเดิมได้ 

4. ผู้ที่มีระบบย่อยอาหารไม่ค่อยแข็งแรง

ลูกเดือยมีใยอาหารสูง หากรับประทานในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือถ่ายเหลวได้ โดยเฉพาะเวลาไม่ได้แช่น้ำก่อนนำมาทำอาหาร

5. ผู้ที่มีภาวะปัสสาวะบ่อยหรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่ายปัสสาวะ

ลูกเดือยมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต หรือปัสสาวะบ่อยมีอาการแย่ลง

อาการข้างเคียงที่อาจพบเกิดจากการทานลูกเดือย

แม้ลูกเดือยจะปลอดภัยต่อผู้บริโภคส่วนใหญ่ แต่บางคนอาจพบอาการไม่พึงประสงค์ เช่น

  • ท้องอืด แน่นท้อง หรือปวดท้อง
  • ถ่ายเหลวหรือถ่ายบ่อย
  • ปัสสาวะถี่กว่าปกติ
  • อาการแพ้ เช่น ผื่นคัน หรือหายใจติดขัด (พบได้น้อยมาก)

ลูกเดือย เมนูสุขภาพ เคล็ดลับลดน้ำหนักแบบไม่ทรมาน

สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการลดน้ำหนักแบบไม่ต้องอดอาหาร หรือออกกำลังกายหนักจนเกินไป ลูกเดือยคือเพื่อนคู่ใจที่สายเฮลตี้หรือมือใหม่เริ่มลดน้ำหนักต้องลอง เช่น

  • ทานลูกเดือยต้มสุกแทนข้าวขาว 
  • ผสมลูกเดือยกับธัญพืชอื่น ๆ หรือใส่ในอาหารเช้าเพื่อเพิ่มใยอาหาร 
  • ดื่มน้ำลูกเดือยหรือสมูททีลูกเดือยเพื่อช่วยให้รู้สึกอิ่มและได้รับสารอาหารครบถ้วน

การรับประทานลูกเดือย จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก 

1. มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มนาน

ช่วยเพิ่มให้รู้สึกอิ่ม ลดความอยากอาหาร และชะลอการย่อยคาร์โบไฮเดรต ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ ไม่หิวบ่อย 

2. แคลอรีต่ำเมื่อเทียบกับธัญพืชบางชนิด

พลังงานต่ำกว่าแป้งหรือข้าวขาว ทำให้สามารถนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารลดน้ำหนักได้โดยไม่เพิ่มแคลอรีมากเกินไป

3. ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ

เช่น แมกนีเซียม และวิตามินบีหลายชนิด ช่วยเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกาย

4. ช่วยลดการสะสมของไขมัน

สำหรับคนที่สงสัยว่าทานลูกเดือย อ้วนไหม? คำตอบคือไม่อ้วน โดยมีงานวิจัยบางชิ้นพบว่า สารสกัดจากลูกเดือยช่วยลดการสะสมไขมันในร่างกายและลดระดับไขมันในเลือด เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันส่วนเกินเป็นอย่างดี

5. ช่วยปรับสมดุลน้ำในร่างกาย

มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ช่วยลดการบวมน้ำและขจัดของเสีย ทำให้ร่างกายไม่บวมน้ำ ช่วยให้น้ำหนักลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ

ลูกเดือยสรรพคุณเต็มเมล็ด ช่วยป้องกันโรคและบรรเทาอาการต่าง ๆ

นอกจากจะช่วยทำให้อิ่มท้องแล้ว ลูกเดือยยังมีสรรพคุณช่วยป้องกันและบรรเทาอาการของโรคต่าง ๆ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น

1. โรคเบาหวาน

ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เนื่องจากมีใยอาหารสูงและคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยช้า ช่วยลดการขึ้นลงของน้ำตาลในเลือด

2. โรคหัวใจและหลอดเลือด

มีสารต้านอนุมูลอิสระและกรดไขมันไม่อิ่มตัว ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และป้องกันการสะสมไขมันในหลอดเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

3. โรคความดันโลหิตสูง

แมกนีเซียมช่วยผ่อนคลายหลอดเลือด และส่งเสริมการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

4. โรคอักเสบและบวม

มีฤทธิ์ขับปัสสาวะและต้านการอักเสบ จึงช่วยลดอาการบวมน้ำและการอักเสบในร่างกายได้ โดยเฉพาะในโรคข้ออักเสบและอาการบวมต่าง ๆ

5. โรคระบบทางเดินอาหาร

ไฟเบอร์ช่วยส่งเสริมการทำงานของลำไส้ ป้องกันอาการท้องผูก และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ลดความเสี่ยงของโรคลำไส้แปรปรวน

สำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารออร์แกนิค คุณภาพดี ปลอดสาร ปลอดภัยในทุกคำที่กิน ไว้ใจเรา Butterfly Organic เพราะเราเข้าใจความต้องการของสาย Healthy และผู้ที่อยากดูแลสุขภาพโดยเฉพาะ เราใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่แหล่งปลูก คัดสรรลูกเดือยอินทรีย์เม็ดอวบ เต็มคุณค่า ไม่มีสารเคมีตกค้าง เหมาะกับทุกคนที่อยากเริ่มปรับพฤติกรรมการทานอาหาร หรืออยากมีสุขภาพที่ดีจากภายใน แค่เปลี่ยนวัตถุดิบเล็ก ๆ ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ร่างกายได้แล้ว

FAQ

ลูกเดือย สรรพคุณมีอะไรบ้าง?

ลูกเดือย สรรพคุณคือช่วยลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือด บำรุงกระดูก ขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น

กินลูกเดือยแล้วจะมีโทษหรือไม่?

โดยทั่วไปลูกเดือยปลอดภัย แต่ผู้ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจกระตุ้นมดลูก นอกจากนี้หากกินมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืดหรือถ่ายเหลวได้ในบางราย

กินลูกเดือยแทนข้าวได้ไหม?

ลูกเดือยสามารถทานแทนข้าวได้ เนื่องจาก เป็นธัญพืชที่ให้พลังงานและใยอาหารสูง แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและหลากหลายอาหารเพื่อความสมดุล

วิธีต้มลูกเดือยทำอย่างไร?

ล้างลูกเดือยให้สะอาด แช่น้ำประมาณ 2-4 ชั่วโมง จากนั้นต้มน้ำเดือดจนเมล็ดนุ่ม ใช้เวลาต้มประมาณ 30-45 นาที ขึ้นอยู่กับความสดของเมล็ดและปริมาณน้ำ

ลูกเดือยเป็นแป้งไหม?

ลูกเดือยจัดเป็นธัญพืช มีคาร์โบไฮเดรตสูง จึงถือว่าเป็นแหล่งแป้งชนิดหนึ่ง

โรคไตกินลูกเดือยได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคไตสามารถกินลูกเดือยได้ในปริมาณพอเหมาะ เพราะมีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมในระดับปานกลาง

บทความล่าสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ Privacy Policy และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า