เคยไหม? อยากกินกรีกโยเกิร์ตทุกวันเพราะรู้ว่าดีต่อสุขภาพ แต่พอเห็นราคาก็แทบถอยหลัง ไม่กล้าหยิบใส่ตะกร้า หรือสงสัยไหมว่ากรีกโยเกิร์ตแตกต่างจากโยเกิร์ตธรรมดาอย่างไร? ถ้าคุณกำลังมองหา กรีกโยเกิร์ตวิธีทําง่ายๆ ที่บ้าน ทั้งเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและควบคุมส่วนผสมให้เหมาะกับร่างกายของคุณ บทความนี้จะช่วยตอบทุกคำถาม พร้อมบอกวิธีทํากรีกโยเกิร์ต เนื้อแน่น ข้น เนียนแบบมืออาชีพ
กรีกโยเกิร์ตคืออะไร?

กรีกโยเกิร์ต คือ โยเกิร์ตที่ผ่านกระบวนการกรองน้ำเวย์ ซึ่งเป็นของเหลวใสที่อยู่ในโยเกิร์ตธรรมชาติออก ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่ข้นหนึบกว่าปกติอย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กรีกโยเกิร์ตมีความเข้มข้นของโปรตีนมากกว่าโยเกิร์ตทั่วไปถึง 2 เท่า แถมยังมีปริมาณน้ำตาลน้อยลงอีกด้วย
นอกจากความต่างทางกายภาพอย่าง เนื้อสัมผัสที่เนียนข้น ไม่เหลวแล้ว กรีกโยเกิร์ตยังตอบโจทย์กลุ่มคนที่ใส่ใจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ออกกำลังกายควบคู่กับการควบคุมอาหาร คนที่ต้องการเพิ่มโปรตีนแต่ลดน้ำตาล หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย เพราะในกรีกโยเกิร์ตยังคงมีจุลินทรีย์ดีที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร และเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
ส่วนผสมและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำกรีกโยเกิร์ต
สำหรับขั้นตอนการทำกรีกโยเกิร์ตสามารถเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเตรียมวัตถุดิบหลัก ดังนี้
- นมสด ควรเลือกชนิดพาสเจอไรส์หรือยูเอชทีที่ไม่เติมน้ำตาล เพื่อให้ได้รสชาติที่บริสุทธิ์
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ที่มีจุลินทรีย์ยังมีชีวิต สำหรับใช้เป็นหัวเชื้อในการเพาะเลี้ยง
- นมผง เป็นทางเลือกเพิ่มความข้นและช่วยในการเซ็ตตัวของโยเกิร์ต
ส่วนอุปกรณ์ที่ควรเตรียม ได้แก่ หม้อสแตนเลสสำหรับต้มนม ผ้าขาวบางหรือผ้ากรองโยเกิร์ต กระชอนละเอียด และกล่องพลาสติกหรือภาชนะที่สะอาดสำหรับเก็บโยเกิร์ตหลังทำเสร็จ หากมีเครื่องทำโยเกิร์ตหรือกระติกเก็บอุณหภูมิ จะช่วยให้ขั้นตอนการบ่มง่ายขึ้น
กรีกโยเกิร์ตวิธีทำ จากโยเกิร์ตธรรมชาติ (วิธีที่ 1)

หากคุณเป็นมือใหม่ หรือ อยากทดลองก่อนแบบไม่ต้องบ่มเอง การใช้โยเกิร์ตธรรมชาติกรองน้ำเวย์ออกเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่คุณชอบเทลงบนผ้าขาวบางที่วางบนกระชอน แล้ววางไว้เหนือชามอีกใบ จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็นเป็นเวลา 8 – 24 ชั่วโมง น้ำเวย์จะค่อยๆ ไหลออก ทำให้เนื้อโยเกิร์ตที่เหลืออยู่ข้นและแน่นยิ่งขึ้น
ข้อดีของวิธีนี้คือไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือควบคุมอุณหภูมิให้ยุ่งยาก เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว ส่วนข้อเสียคืออาจต้องซื้อโยเกิร์ตมาใช้อยู่เรื่อยๆ และควบคุมเนื้อสัมผัสหรือรสชาติไม่ได้อย่างที่ต้องการในทุกครั้ง
กรีกโยเกิร์ตวิธีทำ จากนมสดและหัวเชื้อ (วิธีที่ 2)
หากคุณเป็นสายโฮมเมดตัวจริง อุปกรณ์ครบมือ และต้องการควบคุมตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงรสชาติ วิธีนี้คือคำตอบ โดยเริ่มจากการอุ่นนมสดในหม้อให้ร้อนประมาณ 45 องศาเซลเซียส (ไม่ให้เดือด) แล้วพักให้อุณหภูมิลดลงเหลือราวๆ 40 องศา จากนั้นเติมโยเกิร์ตรสธรรมชาติประมาณ 2–3 ช้อนโต๊ะลงไป คนเบาๆ ให้เข้ากัน แล้วเทใส่ภาชนะที่ปิดฝามิดชิด
ขั้นตอนถัดไป คือการบ่ม โดยวางภาชนะในที่ที่มีอุณหภูมิอุ่นคงที่ เช่น กระติกน้ำร้อนหรือหม้อหุงข้าวที่เปิดโหมดอุ่น ทิ้งไว้ประมาณ 6–8 ชั่วโมง จนได้เนื้อโยเกิร์ตที่เซ็ตตัว จากนั้นนำมาเทใส่ผ้าขาวบางแล้วแช่ในตู้เย็นอีกครั้ง เพื่อกรองน้ำเวย์ออกจนเหลือแต่กรีกโยเกิร์ตเนื้อแน่น
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการจุลินทรีย์สดใหม่ และอยากควบคุมเนื้อสัมผัสให้ได้ตามใจ ซึ่งแม้จะใช้เวลาและต้องดูแลเรื่องอุณหภูมิ แต่ผลลัพธ์ก็คุ้มค่าแน่นอน
เคล็ดลับและเทคนิคทำกรีกโยเกิร์ตให้ข้นเนียนสมบูรณ์แบบ

แม้ว่ากรีกโยเกิร์ตวิธีทำ จะมีหลายรูปแบบทั้งแบบต้มและไม่ต้ม แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนติดใจ คือ เนื้อสัมผัสที่ข้นเนียน คล้ายครีมชีส ซึ่งความสำเร็จในการทำกรีกโยเกิร์ตให้ออกมาสมบูรณ์แบบนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นประเภทของนมที่ใช้ อุปกรณ์ในการกรอง หรือแม้แต่ระยะเวลาการพักตัวของโยเกิร์ต เรามาเจาะลึกแต่ละจุดสำคัญที่ช่วยให้คุณได้ กรีกโยเกิร์ตเนื้อแน่น เนียนละมุน ไม่แพ้แบรนด์ชั้นนำ
เลือกนมแบบไหนให้ข้น?
การเลือกนมที่ดีคือหัวใจสำคัญของวิธีทำกรีกโยเกิร์ตให้เนื้อแน่น แนะนำให้เลือกนมสดพาสเจอไรส์แบบไม่พร่องมันเนย (Full-fat) เพราะไขมันธรรมชาติในนมจะช่วยให้เนื้อโยเกิร์ตเซ็ตตัวได้ดีและเนียนข้นมากขึ้น หากต้องการเพิ่มความหนืดอีกระดับ คุณสามารถเติม นมผงคุณภาพดีประมาณ 2–3 ช้อนโต๊ะต่อนม 1 ลิตร เพื่อช่วยเร่งการเซ็ตตัว และทำให้ได้กรีกโยเกิร์ตที่เนื้อข้นแน่นขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งสารเพิ่มความหนืดใดๆ
อุปกรณ์ที่ช่วยให้เนื้อเนียน
การเลือกใช้อุปกรณ์กรองที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณได้ กรีกโยเกิร์ตเนื้อเนียนละเอียด ไม่เป็นเม็ดหรือแยกชั้น แนะนำให้ใช้ ผ้าขาวบาง 2 ชั้น หรือถ้ามีอุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น ผ้ากรองชีส (cheesecloth) ก็จะยิ่งดีมาก เพราะสามารถกรองน้ำเวย์ออกได้ละเอียดโดยไม่ทำลายเนื้อโยเกิร์ต ควรใช้ร่วมกับ กระชอนที่มีตาข่ายละเอียด เพื่อรองรับน้ำหนักและควบคุมความสะอาดระหว่างการกรองได้ดียิ่งขึ้น
ระยะเวลาการกรองมีผลกับความข้น
รู้หรือไม่ว่า ระยะเวลาในการกรองน้ำเวย์มีผลโดยตรงต่อความข้นของโยเกิร์ต ถ้าคุณชอบ กรีกโยเกิร์ตเนื้อเนียนนุ่ม คล้ายวิปครีม ให้กรองในตู้เย็นประมาณ 6–8 ชั่วโมง แต่ถ้าต้องการเนื้อที่แน่นจัดเหมือนครีมชีส (ใช้ทำดิปหรือขนม) ให้กรองนานถึง 24 ชั่วโมง จะได้เนื้อสัมผัสที่เข้มข้นสุดๆ ยิ่งกรองนาน โยเกิร์ตก็ยิ่งข้น แต่ระวังอย่าให้เกิน 24 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้แห้งหรือรสเปรี้ยวจัดเกินไป
การจัดเก็บและนำกรีกโยเกิร์ตโฮมเมดไปใช้ประโยชน์
กรีกโยเกิร์ตที่ทำเองควรเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทและสะอาด โดยเก็บในตู้เย็นไม่เกิน 7 วัน เพื่อความสดใหม่และปลอดภัย หากมีกลิ่นเปลี่ยนหรือรสเปรี้ยวจัดเกินไปควรหลีกเลี่ยงการบริโภค
ประโยชน์กรีกโยเกิร์ตโฮมเมดมีมากมาย ไม่ว่าจะผสมกับผลไม้สดทำสมูทตี้ ใส่เป็นน้ำสลัดโยเกิร์ต ทำดิปกินคู่กับผักสดแทนมายองเนส หรือแม้แต่ทำเป็นเบเกอรี่ เช่น มัฟฟิน โยเกิร์ตเค้ก หรือไอศกรีมแบบสุขภาพที่อร่อยและได้ประโยชน์
กรีกโยเกิร์ตกับสุขภาพ ทำไมถึงดีต่อคุณ?

นอกจากจะเป็นเมนูที่อร่อยและทำเองได้ง่ายแล้ว กรีกโยเกิร์ตโฮมเมดยังถือว่าเป็นของว่างเพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์สายรักสุขภาพอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสายออกกำลังกาย สายคีโต หรือคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะกรีกโยเกิร์ตเต็มไปด้วยโปรตีน จุลินทรีย์ดี และไขมันดี อีกทั้งยังมีน้ำตาลต่ำกว่านมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตเชิงพาณิชย์ทั่วไป มาดูกันว่า กรีกโยเกิร์ต ประโยชน์มีอะไรบ้าง
โปรตีนสูง อิ่มนาน เหมาะกับคนลดน้ำหนัก
หนึ่งในจุดเด่นของกรีกโยเกิร์ต คือ ปริมาณโปรตีนที่สูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไปถึง 2–3 เท่า ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น เป็นอาหารเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ควบคุมแคลอรี อีกทั้งโปรตีนยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายได้ดี
จุลินทรีย์ดี ช่วยระบบขับถ่าย สมดุลลำไส้
วิธีทำกรีกโยเกิร์ตแบบบ่มเองจากนมสดและหัวเชื้อ จะช่วยให้ได้จุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส และแบคทีเรียที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาท้องอืด ท้องผูก หรือระบบขับถ่ายไม่ปกติ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนหากทานเป็นประจำ
น้ำตาลต่ำกว่าโยเกิร์ตทั่วไป
จุดที่ทำให้หลายคนหันมาทำกรีกโยเกิร์ตโฮมเมดเองคือ สามารถควบคุมน้ำตาลได้ เพราะโยเกิร์ตที่ขายตามร้านทั่วไปมักผสมน้ำตาลหรือวัตถุแต่งกลิ่นจำนวนมาก ในขณะที่กรีกโยเกิร์ตที่คุณทำเองจะไม่มีน้ำตาลเลย หรือจะเติมผลไม้สด น้ำผึ้ง หรือธัญพืชเพื่อเพิ่มรสชาติก็ทำได้อย่างปลอดภัย
ดีต่อระบบภูมิคุ้มกันและผิวพรรณ
นอกจากช่วยระบบย่อยอาหารแล้ว จุลินทรีย์ดีในกรีกโยเกิร์ตยังมีบทบาท ในการเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยดูแลผิวพรรณจากภายใน เพราะลำไส้ที่แข็งแรงจะส่งผลต่อการดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งจากภายในอย่างเป็นธรรมชาติ
เปรียบเทียบ ทำเอง vs ซื้อสำเร็จรูป

การทำกรีกโยเกิร์ตโฮมเมดมีข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ สามารถควบคุมวัตถุดิบทุกอย่างได้ตามต้องการ ไม่มีสารกันบูด ไม่มีน้ำตาลเพิ่ม และสามารถเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี เช่น นมออร์แกนิกหรือโยเกิร์ตจากจุลินทรีย์ธรรมชาติ อีกทั้งต้นทุนยังถูกกว่าการซื้อสำเร็จรูปมาก โดยเฉพาะถ้าทำกินเป็นประจำ
แต่ก็มีข้อเสียเล็กน้อยที่ควรคำนึง คือการใช้เวลาค่อนข้างนาน ต้องมีความสะอาดในการทำทุกขั้นตอน และบางครั้งต้องใช้ประสบการณ์ปรับสูตรกรีกโยเกิร์ตให้ได้ความข้นที่ต้องการ
สรุป
กรีกโยเกิร์ตวิธีทําง่ายๆ ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป คุณสามารถเริ่มจากการใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติกรองน้ำเวย์แบบง่าย หรือเลือกทำแบบเต็มสูตรจากนมสดและหัวเชื้อ หากต้องการควบคุมสุขภาพอย่างแท้จริง
สุขภาพดี เริ่มต้นได้จากในครัวของคุณเอง และถ้าคุณกำลังมองหาวัตถุดิบดีๆ อย่างนมออร์แกนิกหรือโยเกิร์ตธรรมชาติที่ปลอดภัย ลองเลือกใช้สินค้าจาก Butterfly Organic ที่มั่นใจได้ว่าไม่มีสารเติมแต่งหรือสารกันเสีย เพื่อสุขภาพที่ดีในทุกวันของคุณ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
หากไม่มีอาการแพ้นม กินทุกวันได้ เพราะโปรตีนสูงและดีต่อระบบขับถ่าย
เก็บได้นานประมาณ 5 – 7 วันในตู้เย็น หมั่นดูสี กลิ่น และรสชาติ
สามารถนำมาผสมน้ำผลไม้ ดื่มแทนน้ำเปล่า หรือใช้ในสมูทตี้ เพื่อเพิ่มโปรตีน
กรองนานขึ้น ใช้นมผง และใช้ผ้ากรองละเอียดช่วยเพิ่มความข้น
หากไม่สะดวกทำโยเกิร์ตทานเอง หรือ กำลังมองหาว่ากรีกโยเกิร์ตยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำ กรีกโยเกิร์ตจาก Butterfly Organic ออร์แกนิค กรีกโยเกิร์ต ทำจากนมออร์แกนิค 100% โปรตีนเข้มข้น เน้นคุณภาพและวัตถุดิบปลอดภัย