คุณเคยสงสัยไหมว่า “โยเกิร์ตธัญพืช คืออะไร” และเหตุใดโยเกิร์ตธัญพืชจึงกลายเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของคนที่อยากลดน้ำหนัก? ต้องขอเกริ่นก่อนว่าโยเกิร์ตรสธัญพืชให้ประโยชน์มากกว่าความอร่อยและยังเป็นตัวช่วยดูแลสุขภาพที่ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน เมนูโยเกิร์ตธัญพืชจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่มองหาอาหารว่างที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องอิ่มท้องและควบคุมน้ำหนัก ในบทความนี้ Butterfly Organic จะพาคุณไปทำความรู้จักข้อดีและเหตุผลว่าทำไมโยเกิร์ตธัญพืชถึงเป็นที่นิยมสำหรับคนรักสุขภาพในปัจจุบัน
โยเกิร์ตธัญพืช คืออะไร?

โยเกิร์ตธัญพืช เป็นผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตรูปแบบใหม่ที่นำธัญพืชหลากหลายชนิด เช่น ข้าวโอ๊ต ถั่วเหลือง อัลมอนด์ ข้าวโพด หรือกราโนล่า มาผสมผสานกับโยเกิร์ตธรรมชาติ เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์และรสชาติที่แตกต่าง โยเกิร์ตธัญพืชจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการอาหารว่างที่อิ่มนาน อุดมไปด้วยไฟเบอร์ โปรตีน วิตามิน และโพรไบโอติก ทำให้โยเกิร์ตธัญพืชกลายเป็นตัวเลือกที่ยอดนิยมในการดูแลสุขภาพหรือควบคุมน้ำหนักในปัจจุบัน
ทำไมโยเกิร์ตรสธัญพืชจึงเป็นที่นิยมสำหรับคนลดน้ำหนัก?

โยเกิร์ตธัญพืชกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวก อร่อย และมีประโยชน์ เนื่องจากโยเกิร์ตรสธัญพืชนั้นให้ความอิ่มท้องได้นานกว่าของว่างประเภทอื่น อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลการขับถ่ายและดูแลระบบทางเดินอาหารให้ดีขึ้นอีกด้วย
- ให้ไฟเบอร์สูง: ธัญพืชและเมล็ดพืชต่างๆ ในโยเกิร์ตธัญพืชช่วยเสริมไฟเบอร์ ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกอิ่มนาน ลดอาการหิวระหว่างมื้อ เหมาะสำหรับควบคุมพลังงานในแต่ละวัน
- ลดความอยากอาหาร: กินโยเกิร์ตกับอะไรดีที่ทำให้อิ่ม? การผสมผลไม้สด หรือเมล็ดพืชอย่างเจีย อัลมอนด์ และข้าวโอ๊ต ช่วยลดความอยากขนมหรือของหวานได้ดี
- ปรับสมดุลลำไส้: โพรไบโอติกในโยเกิร์ตรสธัญพืชช่วยดูแลระบบขับถ่าย ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมและลดโอกาสบวมน้ำ
- ไขมันต่ำ: หลายสูตรโยเกิร์ตธัญพืชให้ไขมันดีและมีแคลอรีต่ำ ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักแต่ยังอยากกินของอร่อย
โยเกิร์ตจากพืช-ธัญพืช มีชนิดอะไรบ้าง?

ปัจจุบัน เมนูโยเกิร์ตมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะโยเกิร์ตที่ผลิตจากพืชและธัญพืชต่างๆ จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาอาหารทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากโยเกิร์ตรสธัญพืชแบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีโยเกิร์ตที่นำธัญพืชหลายชนิดมาผสมผสานเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับมื้ออาหารว่างและอาหารเช้า
โยเกิร์ตข้าวโอ๊ต
โยเกิร์ตข้าวโอ๊ตเป็นหนึ่งในโยเกิร์ตธัญพืชยอดนิยมสำหรับคนรักสุขภาพและสาย Plant-based ข้าวโอ๊ตอุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ จึงช่วยให้อิ่มท้องนาน ปราศจากแล็กโทส เหมาะสำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนักหรือมีภาวะแพ้นมวัว
โยเกิร์ตถั่วเหลือง
โยเกิร์ตถั่วเหลืองเป็นทางเลือกสำหรับคนที่รักสุขภาพหรือทานมังสวิรัติ เพราะให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ ปราศจากโคเลสเตอรอล และยังเหมาะกับผู้ที่แพ้นมวัวอีกด้วย กินโยเกิร์ตถั่วเหลืองช่วยเสริมโพรไบโอติก และเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในแต่ละวันได้ดี
โยเกิร์ตอัลมอนด์
โยเกิร์ตอัลมอนด์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไขมันดีและวิตามินอีสูง โดยไขมันในอัลมอนด์เป็นชนิดไม่อิ่มตัว จึงมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด เพิ่มความอิ่ม และยังเหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักหรือดูแลสุขภาพผิว
โยเกิร์ตกราโนล่า
โยเกิร์ตกราโนล่าเป็นเมนูโยเกิร์ตที่นิยมสำหรับสายเฮลตี้ เพราะกราโนล่าอุดมไปด้วยธัญพืช ข้าวโอ๊ต ถั่วและเมล็ดพืช เมื่อผสมกับโยเกิร์ตรสธัญพืชจะได้อาหารว่างที่ให้พลังงานยั่งยืน อิ่มนาน และมีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย
โยเกิร์ตข้าวโพด
โยเกิร์ตข้าวโพดเป็นโยเกิร์ตธัญพืชอีกชนิดที่ตอบโจทย์คนต้องการเส้นใยอาหารสูง ช่วยให้ขับถ่ายดี ลดความเสี่ยงการเกิดโรคในลำไส้ และเหมาะสำหรับผู้ที่มองหาเมนูโยเกิร์ตธัญพืชรสชาติต่างจากแบบดั้งเดิม
ธัญพืชแต่ละชนิดมีประโยชน์อย่างไร?
การกินโยเกิร์ตธัญพืชช่วยให้ได้รับประโยชน์หลากหลายจากธัญพืชแต่ละชนิด ซึ่งสามารถเสริมคุณค่าทางโภชนาการและตอบโจทย์การดูแลสุขภาพในแต่ละวัน
- ข้าวโอ๊ต: อุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดเบต้า-กลูแคน ช่วยลดคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และทำให้อิ่มนาน
- ถั่วเหลือง: แหล่งโปรตีนจากพืช มีไอโซฟลาโวนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ดีต่อหัวใจและกระดูก
- อัลมอนด์: ไขมันดี วิตามินอีสูง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและบำรุงผิว
- ข้าวโพด: มีไฟเบอร์สูง ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ลดความเสี่ยงของโรคในลำไส้
- กราโนล่า: รวมธัญพืชและถั่วหลายชนิด ให้พลังงานและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับร่างกาย
การกินโยเกิร์ตกับธัญพืชแต่ละชนิดมีประโยชน์อย่างไร?

โยเกิร์ตธัญพืชแต่ละสูตรสามารถเพิ่มคุณประโยชน์และความอร่อยให้กับทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้าหรือของว่าง
- เพิ่มไฟเบอร์และโปรตีน: ช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร
- ช่วยปรับสมดุลลำไส้: โพรไบโอติกในโยเกิร์ตรสธัญพืชช่วยการขับถ่าย
- ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง: ธัญพืชไม่ขัดสีและถั่วมีสารต้านอนุมูลอิสระ
- เหมาะกับสายรักสุขภาพ: กินโยเกิร์ตกับอะไรดี? เมื่อเลือกธัญพืชที่เหมาะสม สามารถปรับสูตรได้ตามเป้าหมายสุขภาพ
- อิ่มนาน ไม่อ้วน: ส่วนประกอบที่มีแคลอรีต่ำแต่คุณค่าสูง ตอบโจทย์ “กินธัญพืชอ้วนไหม” ได้เป็นอย่างดี
โยเกิร์ตลดความอ้วน ที่ได้ผลที่สุดควรรับประทานคู่กับอะไร?

หลายคนสงสัยว่าควรกินโยเกิร์ตกับอะไรดีเพื่อช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล? การเลือกท็อปปิ้งที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้เมนูโยเกิร์ตและทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน สำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนัก ควรเน้นท็อปปิ้งที่น้ำตาลต่ำ ไขมันดี และไฟเบอร์สูง
ผลไม้สดที่น้ำตาลต่ำ
การเลือกผลไม้สดที่น้ำตาลต่ำมาทานคู่กับโยเกิร์ตธัญพืชจะช่วยให้อิ่มนาน ลดพลังงานสะสม และยังช่วยเติมวิตามิน แร่ธาตุให้ครบถ้วน เป็นไอเดียเมนูโยเกิร์ตที่อร่อยไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังตอบโจทย์คนที่ควบคุมน้ำหนักและรักสุขภาพอีกด้วย
- เบอร์รี่ (สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่): อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ไฟเบอร์สูง ช่วยควบคุมน้ำหนักและบำรุงผิว
- กีวี่: วิตามินซีสูง เสริมภูมิคุ้มกัน ดีต่อระบบย่อยอาหาร
- แอปเปิ้ล: ให้ไฟเบอร์สูง ให้ความอิ่มนาน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ฝรั่ง: แคลอรีต่ำ วิตามินซีสูง ดีต่อระบบขับถ่าย
- แก้วมังกร: ไฟเบอร์สูง ช่วยขับถ่าย และมีพลังงานต่ำ
ธัญพืชไม่ขัดสี/เมล็ดพืช
เมนูโยเกิร์ตที่เพิ่มธัญพืชไม่ขัดสีหรือเมล็ดพืชจะช่วยเพิ่มไฟเบอร์ โปรตีน และกรดไขมันดี ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังและทำให้อิ่มนาน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่อง “กินธัญพืชอ้วนไหม?”
- ข้าวโอ๊ต (Oats): ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เสริมไฟเบอร์ และให้พลังงานยั่งยืน
- เมล็ดเจีย (Chia seeds): ไฟเบอร์สูง อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ช่วยอิ่มนาน
- แฟลกซ์ซีด (Flax seeds): ให้กรดไขมันดีและไฟเบอร์สูง
- เมล็ดทานตะวัน: มีวิตามินอีสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
- ถั่วต่าง ๆ : มีโปรตีนสูงแต่ควรระวังปริมาณ เพราะถั่วให้แคลอรีสูง
ผักสดหั่นเต๋า
การใส่ผักสดหั่นเต๋าลงในโยเกิร์ตธัญพืชหรือโยเกิร์ตรสธัญพืชเป็นวิธีเติมไฟเบอร์ วิตามิน และช่วยให้เมนูโยเกิร์ตดูมีสีสันน่ารับประทานขึ้น เหมาะกับสายรักสุขภาพและคนที่ต้องการโยเกิร์ตประโยชน์ครบถ้วนโดยไม่เพิ่มน้ำตาลหรือแคลอรีเกินจำเป็น
- แตงกวา: แคลอรีต่ำ ให้ความชุ่มชื้นสูง เหมาะกับการดีท็อกซ์ร่างกายและช่วยระบบขับถ่าย
- แครอท: อุดมด้วยวิตามินเอ และไฟเบอร์ ช่วยบำรุงสายตาและเพิ่มสีสันให้เมนูโยเกิร์ต
- มะเขือเทศ: มีไลโคปีนและวิตามินซีสูง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและดีต่อสุขภาพหัวใจ
อ่านบทความ >> โยเกิร์ต 0% ไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย ควรเลือกอย่างไรดี?
แชร์ 5 เมนูโยเกิร์ตลดน้ำหนัก

สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเดียเมนูโยเกิร์ตลดน้ำหนักแบบไม่จำเจ โยเกิร์ตธัญพืชสามารถนำมาประยุกต์ทำเมนูได้หลากหลาย ทั้งเมนูอาหารเช้า อาหารว่าง หรือเมนูควบคุมน้ำหนักที่ทำได้ง่ายที่บ้าน เพิ่มรสชาติและคุณค่าให้กับทุกมื้อ
1. โยเกิร์ตเบอร์รี่โอ๊ต
โยเกิร์ตเบอร์รี่โอ๊ตถือเป็นเมนูโยเกิร์ตที่สายเฮลท์ตี้เลือกบ่อย เพราะอุดมด้วยวิตามินจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และไฟเบอร์สูงจากข้าวโอ๊ต ช่วยให้อิ่มท้องนาน รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว เป็นไอเดียโยเกิร์ตธัญพืชที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพลังงานดีและควบคุมน้ำหนักในมื้อเช้า
ส่วนผสม
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
- ข้าวโอ๊ตสุก 2 ช้อนโต๊ะ
- บลูเบอร์รี่/สตรอว์เบอร์รี่/ราสป์เบอร์รี่รวมกัน 1/2 ถ้วย
- เมล็ดเจีย 1 ช้อนชา
- อัลมอนด์สไลซ์ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ผสมข้าวโอ๊ตและเมล็ดเจียลงในโยเกิร์ต
- เติมผลไม้เบอร์รี่และอัลมอนด์สไลซ์
- คนให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานทันที
2. โยเกิร์ตกีวี่ แอปเปิ้ล เมล็ดเจีย
เมนูนี้ตอบโจทย์คนที่ต้องการกินโยเกิร์ตกับอะไรดีในมื้อเช้า เพราะรวมวิตามินซีสูง ไฟเบอร์จากแอปเปิ้ล และโอเมก้า-3 จากเมล็ดเจีย ช่วยให้อิ่มนานและมีพลังงานต่อเนื่องทั้งวัน
ส่วนผสม
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
- กีวี่หั่นเต๋า 1 ลูก
- แอปเปิ้ลเขียวหั่นเต๋า 1/2 ลูก
- เมล็ดเจีย 1 ช้อนชา
- แฟลกซ์ซีดบด 1 ช้อนชา (ถ้ามี)
วิธีทำ
- ใส่กีวี่และแอปเปิ้ลลงในโยเกิร์ต
- โรยเมล็ดเจียและแฟลกซ์ซีด
- คนเบา ๆ เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานทันที
3. โยเกิร์ตสลัดผัก
โยเกิร์ตสลัดผักเหมาะกับคนที่ต้องการอาหารว่างแคลอรีต่ำ ให้ไฟเบอร์และวิตามินสูง สามารถเลือกผักตามใจชอบ เพิ่มรสชาติสดชื่นและดีต่อระบบขับถ่าย
ส่วนผสม
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
- แตงกวาหั่นเต๋า 1/2 ลูก
- มะเขือเทศราชินีผ่าครึ่ง 5-6 ลูก
- ข้าวโพดต้ม 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยดำป่น เล็กน้อย
- มะนาว 1/2 ลูก
วิธีทำ
- ใส่ผักต่าง ๆ ลงในถ้วย
- บีบมะนาว ผสมโยเกิร์ต แล้วคลุกให้เข้ากัน
- โรยพริกไทยดำตามชอบ เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานทันที
4. โยเกิร์ตถั่วรวมธัญพืช
เมนูนี้เหมาะกับคนที่ต้องการโปรตีนสูงและไขมันดี กินโยเกิร์ตกับถั่วหลากชนิด ช่วยให้อิ่มท้องนาน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเหมาะกับคนที่ออกกำลังกายหรือควบคุมน้ำหนัก
ส่วนผสม
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
- ถั่วลิสงอบหรืออัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะ
- เมล็ดทานตะวัน 1 ช้อนชา
- เมล็ดฟักทอง 1 ช้อนชา
- กล้วยหอม 1/2 ลูก (หั่นชิ้นเล็ก)
วิธีทำ
- ผสมกล้วยกับโยเกิร์ต
- โรยถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ
- คลุกเคล้าเบา ๆ เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานทันที
5. โยเกิร์ตกล้วยหอมโอ๊ต
โยเกิร์ตกล้วยหอมโอ๊ตถือเป็นเมนูที่ตอบโจทย์สายลดน้ำหนักและคนที่อยากได้พลังงานช่วงเช้า กล้วยหอมมีไฟเบอร์และโพแทสเซียมสูง ผสานข้าวโอ๊ตและโยเกิร์ตรสธัญพืช ช่วยให้อิ่มนาน รสชาติกลมกล่อม อร่อย ทานง่าย เหมาะสำหรับทุกวัย
ส่วนผสม
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
- ข้าวโอ๊ต 2 ช้อนโต๊ะ
- กล้วยหอมสุก 1 ลูก (หั่นแว่น)
- อบเชยป่น (Cinnamon) เล็กน้อย
วิธีทำ
- ใส่กล้วย ข้าวโอ๊ต ลงในโยเกิร์ต
- โรยอบเชยป่นเพิ่มกลิ่นหอม
- คลุกให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานทันที
โยเกิร์ตไม่มีน้ำตาล อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
โยเกิร์ตธัญพืชที่ไม่มีน้ำตาลเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนรักสุขภาพและผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะโยเกิร์ตไม่มีน้ำตาลจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและไขมันสะสมในร่างกาย ในขณะที่ยังให้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ทั้งไฟเบอร์ โปรตีน และโพรไบโอติก เหมาะกับสายคลีน สายควบคุมน้ำหนัก และคนที่กำลังมองหาเมนูโยเกิร์ตเพื่อดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น
ทำไมต้องโยเกิร์ตไม่มีน้ำตาลจาก Butterfly Organic?
โยเกิร์ตไม่มีน้ำตาลจาก Butterfly Organic ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือมีภาวะแพ้นมวัว ด้วยกรรมวิธีผลิตแบบออร์แกนิคทุกขั้นตอน ปราศจากสารพิษและยาปฏิชีวนะ ส่งตรงจากฟาร์มวัวที่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันและมีมาตรฐาน USDA ระดับสากล คุณจึงมั่นใจในความปลอดภัยและคุณภาพได้ ทำให้เหมาะสำหรับคนที่กำลังใส่ใจในเรื่องสุขภาพ และเป็นเมนูโยเกิร์ตที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
สรุป
โยเกิร์ตธัญพืช เป็นทางเลือกอาหารว่างที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มคนรักสุขภาพและผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง กินโยเกิร์ตกับอะไรดีจึงเป็นคำถามยอดฮิตที่สามารถต่อยอดได้หลากหลายเมนูโยเกิร์ต การเลือกโยเกิร์ตรสธัญพืชและส่วนผสมที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยให้อิ่มท้องนาน ยังเติมเต็มสารอาหารจำเป็นในแต่ละวัน หากกำลังมองหาโยเกิร์ตออร์แกนิคคุณภาพดี ให้นึกถึง Butterfly Organic!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโยเกิร์ตธัญพืช
โยเกิร์ตธัญพืชมีหลายประเภท เช่น โยเกิร์ตข้าวโอ๊ต โยเกิร์ตถั่วเหลือง โยเกิร์ตอัลมอนด์ โยเกิร์ตกราโนล่า และโยเกิร์ตข้าวโพด สามารถเลือกให้เหมาะกับความต้องการและรสชาติที่ชื่นชอบ
ราคาของโยเกิร์ตธัญพืชจะแตกต่างกันไปตามวัตถุดิบ แบรนด์ และปริมาณ โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 35-85 บาทต่อถ้วย หรือขนาดแพ็ค หากเลือกผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคหรือมีสูตรเฉพาะ ราคาก็จะสูงขึ้นตามคุณภาพ
โยเกิร์ตธัญพืชซื้อที่ไหน สามารถซื้อโยเกิร์ตธัญพืชได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ หรือสั่งออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Shopee, Lazada รวมถึงซื้อโดยตรงจาก Butterfly Organic ซึ่งมีการจัดจำหน่ายในหลายช่องทาง
โยเกิร์ตธัญพืชเหมาะกับคนทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก คนรักสุขภาพ ผู้ที่แพ้นมวัว หรือสาย Plant-based เพราะโยเกิร์ตรสธัญพืชมีทางเลือกมากมาย ทั้งโปรตีนสูง ไขมันดี และโพรไบโอติก
โยเกิร์ตธัญพืชมีประโยชน์มากมาย เช่น ให้ไฟเบอร์สูง ช่วยปรับสมดุลลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน ควบคุมน้ำหนัก และเติมสารอาหารที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
ปริมาณแคลอรีของโยเกิร์ตธัญพืชขึ้นอยู่กับส่วนผสมแต่ละชนิด โดยทั่วไปโยเกิร์ตธรรมชาติ 1 ถ้วยจะให้พลังงานประมาณ 59-120 แคลอรี หากเติมผลไม้หรือธัญพืชเพิ่ม ควรอ่านฉลากโภชนาการเพื่อควบคุมแคลอรีให้เหมาะสม