โพรไบโอติกส์ คืออะไร มีประโยชน์ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

Picture of Butterfly Organic

Butterfly Organic

สารบัญบทความ

เคยสงสัยไหมว่าโพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์ชนิดดีที่หลายคนพูดถึงกันว่ามีผลต่อสุขภาพอย่างไร? ทำไมผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจึงแนะนำให้รับประทานเป็นประจำ และเกี่ยวข้องอย่างไรกับการดูแลระบบทางเดินอาหารของเรา บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จัก Probiotics คืออะไร พร้อมเจาะลึกโพรไบโอติกส์ ประโยชน์ที่ได้รับมีอะไรบ้าง และแนะนำตัวอย่างอาหารที่มีจุลินทรีย์ชนิดนี้อย่างเต็มเปี่ยม

โพรไบโอติกส์ คืออะไร?

โพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์มีชีวิตที่จัดอยู่ในกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดี ซึ่งสามารถพบได้ในร่างกายมนุษย์และในอาหารบางชนิด เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ หรือมิโซะ Probiotics คือจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติทนต่อกรดและด่าง จึงสามารถผ่านกระเพาะอาหารไปจนถึงลำไส้ได้ โดยในลำไส้โพรไบโอติกส์จะเกาะกับเยื่อบุผนังลำไส้และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค ทั้งยังช่วยสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ระบบย่อยและระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โพรไบโอติกส์มีหน้าที่อะไร?

บทบาทของโพรไบโอติกส์ คือ การเป็นตัวช่วยสำคัญในการรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์บางสายพันธุ์ยังช่วยผลิตวิตามินบางชนิดและกระตุ้นการสร้างสารภูมิคุ้มกัน การมี Probiotics ในปริมาณเพียงพอจึงสามารถช่วยให้ร่างกายทำงานอย่างสมดุล ลดโอกาสการเกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร และสนับสนุนสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงยาวนาน

ประเภทของโพรไบโอติกส์ มีอะไรบ้าง?

โพรไบโอติกส์แบ่งออกเป็นหลายสายพันธุ์ แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและบทบาทต่างกัน โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มหลักที่พบในอาหารและอาหารเสริม

1. แลคโตบาซิลลัส

จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ กลุ่มนี้พบมากที่สุดในผลิตภัณฑ์นมหมัก เช่น โยเกิร์ต และนมเปรี้ยว แลคโตบาซิลลัสช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย ลดการอักเสบของลำไส้ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการย่อยแลคโตสในนม จึงเป็นเหตุผลที่ผลิตภัณฑ์ Probiotics หลายชนิดนิยมใช้สายพันธุ์นี้เป็นส่วนประกอบหลัก

2. แซคคาโรไมซิส

แซคคาโรไมซิสโบลาร์ดี (Saccharomyces boulardii) เป็นยีสต์ในกลุ่ม Probiotic ช่วยอะไรได้หลายด้าน โดยเฉพาะการบรรเทาอาการท้องเสียที่เกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะหรือการติดเชื้อบางชนิด ถึงแม้ไม่ใช่จุลินทรีย์ประจำถิ่นในร่างกาย แต่มีคุณสมบัติทนต่อสภาพกรดในกระเพาะและช่วยฟื้นฟูสมดุลลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. บิฟิโดแบคทีเรียม

บิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหารสูงมาก ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดการสะสมของแบคทีเรียก่อโรค และมีบทบาทสำคัญในการผลิตสารตั้งต้นของภูมิต้านทานในร่างกาย

4. จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ประเภทอื่น ๆ

นอกจากสายพันธุ์ที่รู้จักกันทั่วไปแล้ว ยังมีจุลินทรีย์ในกลุ่ม Probiotics คืออื่น ๆ ที่ใช้ในงานด้านโภชนาการและการแพทย์ เช่น Bacillus clausii, Bacillus subtilis, Streptococcus thermophilus และ Bifidobacterium breve จุลินทรีย์เหล่านี้ถูกคัดเลือกมาเพื่อเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้

ระหว่าง โพรไบโอติกส์ กับ พรีไบโอติกส์ ต่างกันอย่างไร?

หลายคนเข้าใจว่าทั้งโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์คือสิ่งเดียวกัน แต่ความจริงแล้วทั้งสองมีบทบาทต่างกันอย่างชัดเจน โพรไบโอติกส์เป็นจุลินทรีย์มีชีวิตที่ช่วยเสริมสุขภาพ ส่วนพรีไบโอติกส์คืออาหารที่หล่อเลี้ยงจุลินทรีย์เหล่านั้น

โพรไบโอติกส์

โพรไบโอติกส์ คือจุลินทรีย์มีชีวิตที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะช่วยสร้างสมดุลในระบบทางเดินอาหาร ป้องกันการเจริญของแบคทีเรียก่อโรค และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน จุลินทรีย์เหล่านี้มักพบในอาหารหมักดอง โยเกิร์ต นมเปรี้ยว และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด

พรีไบโอติกส์

พรีไบโอติกส์ คือ เส้นใยอาหารที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ ทำหน้าที่เป็นแหล่งอาหารให้กับจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ในลำไส้ ตัวอย่างแหล่งพรีไบโอติกได้แก่ กระเทียม หัวหอม กล้วยดิบ และถั่วเหลือง การบริโภคพรีไบโอติกส์ร่วมกับโพรไบโอติกส์จะช่วยเสริมประสิทธิภาพและยืดอายุการทำงานของจุลินทรีย์ดีในร่างกาย

อ่านบทความ >> ประโยชน์ของโยเกิร์ต ที่มีทั้งโพรไบโอติกส์-พรีไบโอติกส์

โพรไบโอติกส์ช่วยบรรเทาโรคอะไรได้บ้าง?

การรับประทานโพรไบโอติกส์ ประโยชน์ไม่ได้จำกัดเพียงการดูแลระบบย่อยอาหาร แต่ยังเกี่ยวข้องกับการบรรเทาอาการของหลายภาวะสุขภาพ จากข้อมูลการวิจัย จุลินทรีย์ชนิดดีนี้สามารถช่วยได้ในหลายกรณี เช่น

  • โรคท้องเสีย – ช่วยฟื้นฟูสมดุลลำไส้และลดระยะเวลาการเกิดอาการ
  • โรคท้องผูก – ปรับสมดุลการเคลื่อนไหวของลำไส้ให้ปกติ
  • ภาวะอ้วน – อาจช่วยปรับสมดุลเมตาบอลิซึมและการย่อยอาหาร
  • การติดเชื้อราในระบบทางเดินปัสสาวะ – ลดการสะสมของเชื้อก่อโรคในระบบทางเดินปัสสาวะ
  • โรคภูมิแพ้ – ลดอาการแพ้และการอักเสบ
  • โรคตับ – ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของตับ
  • โรคผิวหนังอักเสบ – ลดการอักเสบของผิวและสนับสนุนภูมิคุ้มกันผิว
  • โรคเชื้อราในช่องคลอด – ลดการเกิดซ้ำของการติดเชื้อ
  • ภาวะไขมันพอกตับ – ปรับสมดุลระบบเผาผลาญและลดการอักเสบ
  • โรคโคลิคในเด็ก – ลดอาการร้องกวนจากภาวะท้องอืดในทารก

แนะนำอาหารที่มีโพรไบโอติกส์สูง

หากต้องการเสริมปริมาณจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ให้เพียงพอสำหรับการทำงานของร่างกาย การเลือกอาหารที่เป็นแหล่งโพรไบโอติกส์ตามธรรมชาติจัดเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ อาหารเหล่านี้ไม่เพียงช่วยดูแลระบบทางเดินอาหาร แต่ยังสนับสนุนภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวม การเลือกรับประทานให้หลากหลายจะช่วยให้ร่างกายได้รับทั้งจุลินทรีย์และสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็น

1. โยเกิร์ต

Probiotics คือหนึ่งในส่วนผสมหลักของโยเกิร์ตคุณภาพดี โดยเฉพาะสายพันธุ์ Lactobacillus และ Bifidobacterium ที่ช่วยเสริมระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย โยเกิร์ตยังอุดมไปด้วยแคลเซียมและโปรตีน จึงเป็นทางเลือกที่ดีทั้งต่อสุขภาพลำไส้และกระดูก เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรเลือกโยเกิร์ตที่ระบุ “Live Active Cultures” บนฉลาก และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลสูงเกินไป

2. นมเปรี้ยว

นมเปรี้ยวเป็นเครื่องดื่มที่ได้จากการหมักนมด้วยจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์สายพันธุ์ดี เช่น Lactobacillus casei และ Lactobacillus acidophilus มีรสเปรี้ยวอ่อนและดื่มง่าย ช่วยปรับสมดุลลำไส้และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน การเลือกนมเปรี้ยวที่ผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรซ์แบบรักษาจุลินทรีย์มีชีวิต จะช่วยให้ได้รับประโยชน์เต็มที่จากโพรไบโอติกส์ช่วยอะไรได้หลายด้าน

อ่านบทความ >> นมที่มีพรีไบโอติกส์ ดีไหม ต่างจากนมโพรไบโอติกส์ยังไง 

3. เทมเป้

เทมเป้เป็นผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองหมักที่อุดมไปด้วย Probiotic ช่วยอะไรได้ทั้งในแง่ระบบย่อยอาหารและสุขภาพหัวใจ กระบวนการหมักด้วยเชื้อรา Rhizopus oligosporus ทำให้เทมเป้มีโปรตีนสูงและย่อยง่าย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งใยอาหาร วิตามินบี และแร่ธาตุสำคัญ เทมเป้สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารคาวได้หลากหลายเมนู

4. ถั่วนัตโตะ

ถั่วนัตโตะเป็นอาหารหมักดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ใช้เชื้อ Bacillus subtilis ในการหมัก ให้เนื้อสัมผัสเหนียวและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถั่วนัตโตะมีโพรไบโอติกส์ในปริมาณสูง ช่วยเสริมสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ พร้อมสารอาหารอย่างวิตามินเค2 ที่ดีต่อกระดูกและหัวใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมทั้งสุขภาพลำไส้และโภชนาการ

5. ชาหมักคอมบูชา

คอมบูชาเป็นเครื่องดื่มหมักจากชาเขียวหรือชาดำ ผสมกับน้ำตาลและหัวเชื้อจุลินทรีย์ กลายเป็นเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยวซ่าและกลิ่นเฉพาะตัว ภายในมี Probiotics คือจุลินทรีย์ดีหลากหลายสายพันธุ์ที่ช่วยดูแลลำไส้และกระตุ้นระบบขับถ่าย นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระจากชา ซึ่งมีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์ร่างกาย

6. อาหารหมักดอง

อาหารหมักดอง เช่น กิมจิ ผักดอง หรือซาวเคราท์ เป็นแหล่งจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ที่เกิดจากกระบวนการหมักตามธรรมชาติ ทำให้ได้รสชาติเปรี้ยวเฉพาะและมีสารอาหารที่เกิดจากการหมัก เช่น กรดแลคติก ซึ่งช่วยให้ลำไส้มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการทำงานของจุลินทรีย์ดี

7. แอปเปิลไซเดอร์

น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล หรือแอปเปิลไซเดอร์ มีโพรไบโอติกส์ที่สามารถช่วยในด้านการดูแลลำไส้และช่วยย่อยอาหาร หากเลือกชนิด Organic และ “Raw Unfiltered” จะมีตะกอน Mother of Vinegar ซึ่งเป็นแหล่งจุลินทรีย์และเอนไซม์ที่มีประโยชน์

8. ดาร์กช็อคโกแลต

ดาร์กช็อคโกแลตคุณภาพสูงที่มีโกโก้ 70% ขึ้นไป เป็นหนึ่งในอาหารที่มี Probiotics สายพันธุ์ Lactobacillus และ Bifidobacterium ในปริมาณที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีโพลีฟีนอลที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้และส่งเสริมสุขภาพหัวใจ

9. ชีสบางประเภท

ชีสหมัก เช่น เชดด้า มอสซาเรลล่า หรือเกาด้า เป็นแหล่งโพรไบโอติกส์ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร ควรเลือกชีสที่ระบุ “Live Cultures” หรือ “Active Cultures” บนฉลาก เพื่อยืนยันว่ามีจุลินทรีย์มีชีวิตอยู่ในผลิตภัณฑ์

10. ซุปมิโซะ

ซุปมิโซะของญี่ปุ่นทำจากถั่วเหลืองหมักกับเชื้อราที่มีคุณภาพ ทำให้ซุปนี้มีรสกลมกล่อมและอุดมด้วย Probiotic ช่วยอะไรได้ทั้งการปรับสมดุลลำไส้และเสริมโปรตีนจากพืช ควรละลายมิโซะในน้ำอุ่นไม่เดือด เพื่อรักษาจุลินทรีย์ดีให้ยังมีชีวิตอยู่

สรุปโพรไบโอติกส์ ตัวช่วยสำคัญของระบบทางเดินอาหาร

โพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์ชนิดดีที่มีบทบาทสำคัญต่อการดูแลระบบย่อยอาหารและการเสริมภูมิคุ้มกัน การบริโภค Probiotics จากอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ลำไส้แข็งแรง ลดความเสี่ยงการเกิดความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ และสนับสนุนสุขภาพในระยะยาว

Butterfly Organic มีบริการผลิตภัณฑ์นมและโยเกิร์ตออร์แกนิกที่อุดมด้วยจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์คุณภาพสูง ผลิตด้วยกระบวนการที่ได้มาตรฐาน เพื่อมอบประโยชน์ของโพรไบโอติกส์อย่างเต็มที่แก่ผู้บริโภค หากคุณกำลังมองหาวิธีดูแลระบบทางเดินอาหารและเสริมภูมิคุ้มกันอย่างยั่งยืน ผลิตภัณฑ์ของเราคือคำตอบ

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโพรไบโอติกส์

โพรไบโอติกส์ยี่ห้อไหนดี?

การเลือก Probiotics คือควรพิจารณาจากสายพันธุ์ที่ชัดเจน ปริมาณจุลินทรีย์มีชีวิต (CFU) ที่เหมาะสม และมีการรับรองคุณภาพจากหน่วยงานมาตรฐาน เช่น อย. หรือ Organic Certification

กินโพรไบโอติกส์ทุกวัน ช่วยอะไร?

การรับประทานโพรไบโอติกส์เป็นประจำช่วยปรับสมดุลลำไส้ สนับสนุนการย่อยอาหาร และเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โพรไบโอติกส์ มีอะไรบ้าง?

สายพันธุ์ของจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ที่พบบ่อยและได้รับการวิจัยแล้วว่ามีประโยชน์ ได้แก่ Lactobacillus – ช่วยดูแลระบบขับถ่ายและย่อยแลคโตส Bifidobacterium – เสริมภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบในลำไส้ Saccharomyces boulardii – ยีสต์ที่ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย สายพันธุ์อื่น ๆ เช่น Bacillus clausii, Streptococcus thermophilus ที่มีคุณสมบัติเฉพาะด้าน

โพรไบโอติกส์กินตอนไหนดีที่สุด?

Probiotic ช่วยอะไรได้มากขึ้นเมื่อรับประทานก่อนอาหารหรือระหว่างมื้อ เพราะช่วงนั้นกระเพาะมีความเป็นกรดต่ำ จุลินทรีย์จึงผ่านไปถึงลำไส้ได้มากกว่า

ใครบ้างที่ไม่ควรกินโพรไบโอติกส์?

แม้โพรไบโอติกส์ช่วยเรื่องอะไรได้หลายด้าน แต่บางกลุ่มควรระมัดระวัง ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือได้รับการรักษากดภูมิ ผู้ที่เพิ่งผ่าตัดใหญ่ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพรุนแรงในระบบทางเดินอาหารควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานเพื่อความปลอดภัย

ทำไมกินโพรไบโอติกส์แล้วถ่ายบ่อย?

บางครั้งการเริ่มรับประทาน Probiotics คือการเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ดีในลำไส้ อาจทำให้ระบบขับถ่ายเปลี่ยนแปลงชั่วคราว เช่น ถ่ายบ่อยขึ้น เนื่องจากร่างกายกำลังปรับสมดุล

โพรไบโอติกส์อยู่ในอาหารอะไรบ้าง?

มาดูกันว่าแหล่งโพรไบโอติกส์ มีอะไรบ้างในอาหาร ดังนี้ โยเกิร์ตและนมเปรี้ยว อาหารหมักดอง เช่น กิมจิ ผักดอง ชาหมักคอมบูชา เทมเป้ และถั่วนัตโตะ ชีสบางประเภท และซุปมิโซะ

โพรไบโอติกส์ประโยชน์คืออะไร?

โพรไบโอติกส์ ประโยชน์มีหลายด้าน เช่น ปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ลดความเสี่ยงการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ สนับสนุนสุขภาพผิวและลดการอักเสบ

บทความล่าสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า