Category: โยเกิร์ต

กรดไหลย้อน กินโยเกิร์ตได้ไหม อาจเป็นคำถามที่ผู้ป่วยกรดไหลย้อนหลาย ๆ คนกำลังสงสัยและมีความอยากรู้เป็นอย่างมาก เป็นที่ทราบกันดีว่ากรดไหลย้อนแม้จะดูเป็นโรคที่ไม่มีอาการรุนแรงมากนัก แต่นั่นเป็นเพียงช่วงแรกเท่านั้น ซ้ำร้ายโรคนี้ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้อีกด้วย โดยสิ่งที่จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาอึดอัด แน่นท้อง แน่นนอก เช่นนี้ การเลือกรับประทานอาหารเป็นวิธีที่เห็นผลและง่ายมากที่สุด นั่นจึงทำให้คำถามข้างต้นถูกตั้งขึ้นมาโดยผู้ป่วยหลาย ๆ คนนั่นเอง
แพลนต์เบส (Plant Based) หลายคนอาจไม่เคยรู้จักหรือไม่รู้มาก่อนว่าสิ่งนี้คืออะไร แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในวงการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพคงคุ้นเคยกันดี ก่อนอื่นนั้นต้องอธิบายก่อนว่าเมื่อเราพูดถึงอาหารเพื่อสุขภาพ แน่นอนว่าจะต้องเป็นการลดเนื้อ เพิ่มผักหรือผลไม้ให้มากขึ้น อย่างไรก็ดี เมนูที่มักจะเป็นเมนูเบื้องต้นของวิถีการรับประทานอาหารเช่นนี้ ก็มักจะหนีไม่พ้น ผัก ผลไม้ เนื้อเทียม นม และโยเกิร์ต เป็นต้น ดังนั้นเราจะมาดูกันว่าอาหารต่างๆ ที่ได้กล่าวมานั้นเมื่อเป็นเมนูของ Plant Based จะต่างจากแบบอื่นอย่างไร
เคยสงสัยไหมว่าโพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์ชนิดดีที่หลายคนพูดถึงกันว่ามีผลต่อสุขภาพอย่างไร? ทำไมผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจึงแนะนำให้รับประทานเป็นประจำ และเกี่ยวข้องอย่างไรกับการดูแลระบบทางเดินอาหารของเรา บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จัก Probiotics คืออะไร พร้อมเจาะลึกโพรไบโอติกส์ ประโยชน์ที่ได้รับมีอะไรบ้าง และแนะนำตัวอย่างอาหารที่มีจุลินทรีย์ชนิดนี้อย่างเต็มเปี่ยม โพรไบโอติกส์ คืออะไร? โพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์มีชีวิตที่จัดอยู่ในกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดี ซึ่งสามารถพบได้ในร่างกายมนุษย์และในอาหารบางชนิด เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ หรือมิโซะ Probiotics คือจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติทนต่อกรดและด่าง จึงสามารถผ่านกระเพาะอาหารไปจนถึงลำไส้ได้ โดยในลำไส้โพรไบโอติกส์จะเกาะกับเยื่อบุผนังลำไส้และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค ทั้งยังช่วยสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ระบบย่อยและระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โพรไบโอติกส์มีหน้าที่อะไร? บทบาทของโพรไบโอติกส์ คือ การเป็นตัวช่วยสำคัญในการรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์บางสายพันธุ์ยังช่วยผลิตวิตามินบางชนิดและกระตุ้นการสร้างสารภูมิคุ้มกัน การมี Probiotics ในปริมาณเพียงพอจึงสามารถช่วยให้ร่างกายทำงานอย่างสมดุล ลดโอกาสการเกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร และสนับสนุนสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงยาวนาน ประเภทของโพรไบโอติกส์ มีอะไรบ้าง? โพรไบโอติกส์แบ่งออกเป็นหลายสายพันธุ์ แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและบทบาทต่างกัน โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มหลักที่พบในอาหารและอาหารเสริม 1. แลคโตบาซิลลัส จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ กลุ่มนี้พบมากที่สุดในผลิตภัณฑ์นมหมัก เช่น โยเกิร์ต และนมเปรี้ยว แลคโตบาซิลลัสช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย ลดการอักเสบของลำไส้ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการย่อยแลคโตสในนม จึงเป็นเหตุผลที่ผลิตภัณฑ์ Probiotics หลายชนิดนิยมใช้สายพันธุ์นี้เป็นส่วนประกอบหลัก 2. แซคคาโรไมซิส แซคคาโรไมซิสโบลาร์ดี (Saccharomyces boulardii) เป็นยีสต์ในกลุ่ม Probiotic ช่วยอะไรได้หลายด้าน โดยเฉพาะการบรรเทาอาการท้องเสียที่เกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะหรือการติดเชื้อบางชนิด ถึงแม้ไม่ใช่จุลินทรีย์ประจำถิ่นในร่างกาย แต่มีคุณสมบัติทนต่อสภาพกรดในกระเพาะและช่วยฟื้นฟูสมดุลลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. บิฟิโดแบคทีเรียม บิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหารสูงมาก ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดการสะสมของแบคทีเรียก่อโรค และมีบทบาทสำคัญในการผลิตสารตั้งต้นของภูมิต้านทานในร่างกาย 4. จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ประเภทอื่น ๆ นอกจากสายพันธุ์ที่รู้จักกันทั่วไปแล้ว ยังมีจุลินทรีย์ในกลุ่ม Probiotics คืออื่น ๆ ที่ใช้ในงานด้านโภชนาการและการแพทย์ เช่น Bacillus clausii, Bacillus subtilis, Streptococcus thermophilus และ Bifidobacterium breve จุลินทรีย์เหล่านี้ถูกคัดเลือกมาเพื่อเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ระหว่าง โพรไบโอติกส์ กับ พรีไบโอติกส์ ต่างกันอย่างไร? หลายคนเข้าใจว่าทั้งโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์คือสิ่งเดียวกัน แต่ความจริงแล้วทั้งสองมีบทบาทต่างกันอย่างชัดเจน โพรไบโอติกส์เป็นจุลินทรีย์มีชีวิตที่ช่วยเสริมสุขภาพ ส่วนพรีไบโอติกส์คืออาหารที่หล่อเลี้ยงจุลินทรีย์เหล่านั้น โพรไบโอติกส์ โพรไบโอติกส์ คือจุลินทรีย์มีชีวิตที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะช่วยสร้างสมดุลในระบบทางเดินอาหาร ป้องกันการเจริญของแบคทีเรียก่อโรค และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน จุลินทรีย์เหล่านี้มักพบในอาหารหมักดอง โยเกิร์ต นมเปรี้ยว และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด พรีไบโอติกส์ พรีไบโอติกส์ คือ เส้นใยอาหารที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ ทำหน้าที่เป็นแหล่งอาหารให้กับจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ในลำไส้ ตัวอย่างแหล่งพรีไบโอติกได้แก่ กระเทียม หัวหอม กล้วยดิบ และถั่วเหลือง การบริโภคพรีไบโอติกส์ร่วมกับโพรไบโอติกส์จะช่วยเสริมประสิทธิภาพและยืดอายุการทำงานของจุลินทรีย์ดีในร่างกาย อ่านบทความ >> ประโยชน์ของโยเกิร์ต ที่มีทั้งโพรไบโอติกส์-พรีไบโอติกส์ โพรไบโอติกส์ช่วยบรรเทาโรคอะไรได้บ้าง? การรับประทานโพรไบโอติกส์ ประโยชน์ไม่ได้จำกัดเพียงการดูแลระบบย่อยอาหาร แต่ยังเกี่ยวข้องกับการบรรเทาอาการของหลายภาวะสุขภาพ จากข้อมูลการวิจัย จุลินทรีย์ชนิดดีนี้สามารถช่วยได้ในหลายกรณี เช่น โรคท้องเสีย – ช่วยฟื้นฟูสมดุลลำไส้และลดระยะเวลาการเกิดอาการ โรคท้องผูก – ปรับสมดุลการเคลื่อนไหวของลำไส้ให้ปกติ ภาวะอ้วน – อาจช่วยปรับสมดุลเมตาบอลิซึมและการย่อยอาหาร การติดเชื้อราในระบบทางเดินปัสสาวะ –…
นอนไม่หลับทำไงดี เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนพยายามหาคำตอบกันมานาน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าปัญหาการนอนไม่หลับส่งผลต่อคนไทยกว่า 19 ล้านคน และจากสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต พบผลสำรวจกว่า 53.39% ที่คนไทยสนใจในเรื่องการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ แสดงให้เห็นว่าในสังคมไทยเรากำลังเผชิญกับปัญหานี้และพยายามแก้ไขกับปัญหาการนอนของตัวเองโดยที่ไม่ต้องการพึ่งยา
โรคเบาหวาน คือภาวะสุขภาพที่เกิดจากความผิดปกติของการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ส่งผลให้ระดับน้ำตาลสูงเกินกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง หลายคนอาจสงสัยว่าโรคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และสัญญาณเตือนมีอะไรบ้าง การทำความเข้าใจ โรคเบาหวาน อาการ สาเหตุ วิธีป้องกัน จะช่วยให้สามารถดูแลและรักษาได้อย่างถูกวิธี บทความนี้ Butterfly Organic ได้รวบรวมข้อมูลที่สำคัญ ครอบคลุมทั้งด้านการแพทย์และการดูแลตนเอง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ลดความเสี่ยงและจัดการโรคเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคเบาหวาน คืออะไร? โรคเบาหวาน คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเกิดจากความผิดปกติในการทำงานของฮอร์โมนอินซูลิน ไม่ว่าจะเป็นการที่ตับอ่อนผลิตอินซูลินได้น้อย หรือร่างกายเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ไม่สามารถนำน้ำตาลในกระแสเลือดไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีน้ำตาลสะสมอยู่ในเลือดเป็นเวลานาน หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแลรักษา อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทั้งในหลอดเลือดขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โรคเบาหวาน มีสาเหตุเกิดจากปัจจัยอะไรได้บ้าง? โรคเบาหวานเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งปัจจัยภายในร่างกายและพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งบางปัจจัยสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อลดความเสี่ยงได้ กรรมพันธุ์ — หากพ่อ แม่ หรือพี่น้องสายตรงเป็นโรคเบาหวาน ความเสี่ยงของการเกิดโรคในบุคคลนั้นจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อายุที่มากขึ้น — โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป จะมีโอกาสเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินมากขึ้น ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุง — รอบเอวเกินมาตรฐาน (ผู้ชาย > 90 ซม., ผู้หญิง > 80 ซม.) หรือค่าดัชนีมวลกายเกินเกณฑ์ ล้วนเพิ่มความเสี่ยง พฤติกรรมการใช้ชีวิต — การไม่ออกกำลังกาย การนั่งทำงานหรืออยู่เฉย ๆ เป็นเวลานาน และการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูง เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการเบาหวาน โรคร่วมและภาวะทางสุขภาพ — ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) และโรคหัวใจ ล้วนสัมพันธ์กับการเกิดเบาหวาน ประวัติการตั้งครรภ์ — ผู้หญิงที่เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือเคยคลอดบุตรที่มีน้ำหนักมากกว่า 4 กิโลกรัม มีโอกาสเสี่ยงมากขึ้น การใช้ยาบางชนิด — เช่น ยาที่มีส่วนประกอบของสเตียรอยด์ ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น ชนิดของโรคเบาหวาน มีอะไรบ้าง? โรคเบาหวาน แบ่งออกเป็นหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีสาเหตุและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจชนิดของโรคจะช่วยให้ผู้ป่วยและบุคคลทั่วไปสามารถเลือกแนวทางการดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม และลดโอกาสเกิดเบาหวานอาการที่รุนแรงในอนาคต โรคเบาหวานชนิดที่ 1 — เกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายทำลายเซลล์ตับอ่อนที่สร้างอินซูลิน ทำให้เกิดภาวะขาดอินซูลินอย่างสมบูรณ์ พบมากในเด็กและวัยรุ่น ต้องรักษาด้วยการฉีดอินซูลินตลอดชีวิต โรคเบาหวานชนิดที่ 2 — เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลินร่วมกับการผลิตอินซูลินลดลง ปัจจัยเสี่ยงหลักได้แก่ กรรมพันธุ์ น้ำหนักเกิน และพฤติกรรมการใช้ชีวิต โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ — เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์และมักหายไปหลังคลอด แต่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต โรคเบาหวานที่มีสาเหตุจำเพาะ — เช่น เกิดจากโรคของตับอ่อน ภาวะฮอร์โมนผิดปกติ หรือการใช้ยาบางชนิด โรคเบาหวาน มีอาการอย่างไร? อาการโรคเบาหวาน อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก การรู้จักสัญญาณเตือนสำคัญจะช่วยให้ตรวจพบและรักษาได้เร็วขึ้น ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน กระหายน้ำและปัสสาวะบ่อย — โดยเฉพาะช่วงกลางคืนมากกว่า 3 ครั้ง เป็นสัญญาณบ่งชี้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง หิวบ่อยและน้ำหนักลด — ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลเป็นพลังงานได้เต็มที่ จึงเผาผลาญไขมันและกล้ามเนื้อแทน อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย — เนื่องจากเซลล์ขาดพลังงานจากน้ำตาล สายตาพร่ามัว — น้ำตาลสูงส่งผลต่อการทำงานของเลนส์ตา แผลหายช้าและติดเชื้อง่าย — โดยเฉพาะแผลที่เท้าหรือผิวหนัง ชาหรือแสบร้อนปลายมือปลายเท้า…
กรีกโยเกิร์ตยี่ห้อไหนดี คำถามชวนหัวที่แม้แต่ผู้บริโภคเองก็เกิดความสับสนว่าควรเลือกซื้อแบบไหนดี เพราะเป็นที่ทราบกันว่าในช่วง 2-3 ปีให้หลังมานี้ เทรนด์การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพได้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง “โยเกิร์ต” จึงกลายมาเป็นหนึ่งในหลาย ๆ เมนูที่หลายคนเลือกกิน โดยเฉพาะ “กรีกโยเกิร์ต” และในบทความนี้ Butterfly Organic จึงได้รวบรวมวิธีการเลือกโยเกิร์ตชนิดนี้มาฝากผู้บริโภคให้ได้ทราบกัน
เมื่อสุขภาพกลายเป็นเรื่องสำคัญ หลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับ โยเกิร์ต 0% ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกของอาหารสุขภาพที่เหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ลดไขมัน และดูแลระบบขับถ่าย แต่ในตลาดมีหลากหลายสูตร ทั้งโยเกิร์ตไขมัน 0% , น้ำตาลน้อย และสูตรธรรมชาติ ทำให้หลายคนสงสัยว่า “ควรเลือกแบบไหนดีถึงจะตอบโจทย์?” บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีเลือกโยเกิร์ตที่เหมาะสม พร้อมชี้ให้เห็นประโยชน์ที่แท้จริงจาก โยเกิร์ต 0% โยเกิร์ต 0% คืออะไร? โยเกิร์ต 0% หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อโยเกิร์ตไขมัน 0% เป็นผลิตภัณฑ์นมที่ผ่านกระบวนการแยกไขมันออกจนเหลือไขมันเพียง 0% หรือใกล้เคียง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันส่วนเกิน หรือควบคุมพลังงานในแต่ละวัน แม้จะไม่มีไขมัน แต่ยังคงคุณค่าทางอาหารไว้ครบถ้วน ทั้งโปรตีน แคลเซียม และโพรไบโอติกส์ นอกจากนี้ยังมีสูตรที่ปรับปรุงให้ “น้ำตาลน้อย” หรือ “ไม่มีน้ำตาล” เพื่อให้เหมาะกับผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพ โยเกิร์ต 0% ดีต่อสุขภาพ จริงหรือไม่? โยเกิร์ต 0% มีจุดเด่นในเรื่องของการให้พลังงานและไขมันที่ต่ำกว่าโยเกิร์ตทั่วไป อีกทั้งบางสูตรยังเสริมโปรไบโอติกที่ช่วยดูแลสุขภาพระบบย่อยอาหารและภูมิคุ้มกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย แคลอรีต่ำ โยเกิร์ต 0% ให้พลังงานน้อยกว่าโยเกิร์ตแบบปกติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือกำลังลดน้ำหนัก เพราะสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณแคลอรีมากนัก เมื่อเลือกเป็นของว่างหรือรับประทานคู่กับผลไม้ ก็จะช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นโดยไม่เพิ่มแคลอรีส่วนเกิน ปริมาณไขมันน้อย อีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของโยเกิร์ต 0% คือมีไขมันต่ำ จึงตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการลดไขมันในอาหารประจำวัน โดยเฉพาะกลุ่มที่ดูแลสุขภาพหรือมีปัญหาเกี่ยวกับคอเลสเตอรอล เลือกโยเกิร์ตชนิดนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับไขมันส่วนเกิน มีสรรพคุณของโปรไบโอติก โยเกิร์ต 0% หลายยี่ห้อมีการเติมแบคทีเรียดีหรือโปรไบโอติกลงไป ซึ่งโปรไบโอติกมีบทบาทในการช่วยสร้างสมดุลในระบบทางเดินอาหาร และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย การรับประทานโยเกิร์ตชนิดนี้จึงให้ประโยชน์มากกว่าการได้รับแคลอรีและไขมันต่ำ โยเกิร์ต 0% มีประโยชน์อย่างไร? การทานโยเกิร์ต 0% มีประโยชน์ช่วยให้ความรู้สึกที่อยากทานของว่างน้อยลง และยังพร้อมกับคุณค่าทางโภชนาการที่มีผลต่อสุขภาพในหลายด้าน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างหรือระบบย่อยอาหาร ช่วยลดไขมันในร่างกาย โยเกิร์ตไขมัน 0% ช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและความดันโลหิต การลดไขมันในมื้ออาหารเป็นประจำสามารถช่วยควบคุมรูปร่างและป้องกันโรคได้อย่างยั่งยืน ปรับสมดุลลำไส้และขับถ่ายดีขึ้น โพรไบโอติกส์ในโยเกิร์ตไขมันต่ำช่วยฟื้นฟูจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ราบรื่น ลดอาการท้องผูก ท้องอืด และยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยรวมอีกด้วย เพิ่มโปรตีน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ โยเกิร์ตไม่มีไขมันมีปริมาณโปรตีนสูง ซึ่งจำเป็นต่อการซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร โดยไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับไขมันเกินความจำเป็น ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด การเลือกโยเกิร์ตไขมันน้อยช่วยลดคอเลสเตอรอล LDL ที่เป็นสาเหตุหลักของการอุดตันในหลอดเลือด อีกทั้งยังให้แคลเซียมและแมกนีเซียมที่ดีต่อการควบคุมความดันโลหิต ลดความเครียดและช่วยให้หลับง่าย โยเกิร์ตอุดมไปด้วยทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นในการกระตุ้นการหลั่งเซโรโทนิน ช่วยลดอาการเครียด วิตกกังวล และช่วยให้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น โยเกิร์ต 0% ช่วยลดความอ้วนได้จริงไหม? หลายคนสงสัยว่า โยเกิร์ต 0% จะช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ คำตอบคือ “ได้” หากเลือกสูตรที่มีไขมันต่ำและน้ำตาลน้อย โยเกิร์ตไขมันต่ำจะให้พลังงานน้อย ช่วยให้อิ่มท้องนานขึ้น และลดการกินจุบจิบระหว่างวัน นอกจากนี้ยังมีโพรไบโอติกส์ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ และลดการดูดซึมไขมันร้ายเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จาก Butterfly Organic ที่พัฒนาโยเกิร์ต ลดน้ําหนัก ด้วยวัตถุดิบออร์แกนิคแท้ ปลอดสารเคมี และน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับสายสุขภาพที่แท้จริง อ่านบทความ >> “โยเกิร์ต” อาหารลดความอ้วนยอดนิยมที่ไม่ควรมองข้าม  วิธีเลือกโยเกิร์ต 0% ต้องพิจารณาจากปัจจัยอะไรบ้าง? การเลือกโยเกิร์ต ที่มีไขมัน 0% ไม่ใช่แค่ดูฉลากคำว่าไขมัน 0% เท่านั้น แต่ต้องดูส่วนประกอบโดยละเอียดเพื่อให้ได้โยเกิร์ตไขมันต่ำที่มีคุณภาพ และไม่ทำลายเป้าหมายในการควบคุมน้ำหนัก ดูฉลากโภชนาการให้ชัดเจน ควรตรวจสอบค่าสารอาหารที่สำคัญ…
เชื้อราในช่องคลอด สิ่งที่คุณผู้หญิงทุกคนรู้จักกันดีแต่ไม่พึงประสงค์จะให้เกิดขึ้น แม้จะเป็นภาวะที่ไม่ได้มีอันตรายในช่วงต้น แต่ก็สามารถส่งผลให้เกิดเรื้อรังได้หากไม่รักษา อย่างไรก็ตาม นอกจากการรักษาและการป้องกันโดยการใช้ยาแล้ว อีกสิ่งที่สามารถลดการเกิดเชื้อราภายในช่องคลอดที่คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนไม่เคยรู้มาก่อนนั่นคือ “โยเกิร์ต” ไอเทมช่วยคุมน้ำหนักที่คุณผู้หญิงหลายคนเลือกรับประทาน ซึ่งเมื่อกล่าวมาเช่นนี้หลายคนก็อาจสงสัยว่าเจ้านมหมักชนิดนี้สามารถช่วยบรรเทาอาการนี้ได้อย่างไร ในบทความนี้ Butterfly มีคำตอบ
โยเกิร์ตที่มีพรีไบโอติกส์ มักเป็นสิ่งแรกๆ ที่เรามักจะนึกถึงเมื่อเกิดปัญหาระบบขับถ่าย ไม่ว่าจะเป็นท้องผูก หรือ ท้องเสีย เราต่างทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์นม เช่น นมเปรี้ยว หรือ โยเกิร์ต ก็ต่างช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึง โยเกิร์ตพรีไบโอติกส์ หลายคนอาจสงสัยว่าเจ้าโยเกิร์ตชนิดนี้คืออะไร เพราะมีความคล้ายกับคำว่า โพรไบโอติกส์ ซึ่งจุลินทรีย์ทั้ง 2 ตัวนี้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันไหม ดังนั้น ในบทความนี้ Butterfly Organic จึงมีคำตอบเกี่ยวกับข้อสงสัยนี้มาฝากกัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำการศึกษากันก่อนดีกว่าว่าปัญหาระบบขับถ่ายที่คนเรามักต้องจอ มีอะไรบ้าง ?
หากคุณซื้อโยเกิร์ตด้วยความเคยชิน คุณอาจพลาดโอกาสได้โยเกิร์ต ราคาคุ้มค่าและดีต่อสุขภาพ โยเกิร์ตมีประโยชน์หลากหลาย แต่ด้วยชนิดที่มากมาย การเลือกที่คุ้มค่าจึงสำคัญ บทความนี้จะเจาะลึกปัจจัยราคาและแนะนำวิธีเลือกซื้อโยเกิร์ตที่โดนใจและคุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ ทำไมโยเกิร์ต ราคาต่างกัน?  เคยสงสัยไหมว่าทำไมโยเกิร์ต ราคาถึงไม่เท่ากัน บางครั้งดูเหมือนถูก แต่บางทีกลับแพงขึ้น ทั้ง ๆ ที่เป็นยี่ห้อเดิม? ความผันผวนของราคานั้นมาจากหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่เรื่องของความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากรหรือวัตถุดิบที่หายากขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบสำคัญอื่นๆ ที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ โยเกิร์ต ราคามีความแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้ ประเภทของโยเกิร์ต โยเกิร์ตทั่วไป เป็นชนิดที่หาซื้อได้ง่ายและเป็นโยเกิร์ต ราคาถูกทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับทุกคน กรีกโยเกิร์ต ราคา มักจะมีราคาสูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไป เพราะผ่านกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่า ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่เข้มข้น และมีปริมาณโปรตีนสูงกว่ามาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโปรตีนพิเศษ โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ราคา เน้นความสะดวกสบายในการบริโภค ราคาอาจใกล้เคียงกับโยเกิร์ตทั่วไป หรือสูงกว่าเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับแบรนด์และส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามา ส่วนผสมและคุณสมบัติพิเศษ โยเกิร์ตออร์แกนิก  เช่น โยเกิร์ตจาก บัตเตอร์ฟลาย ออร์แกนิค ที่โดดเด่นด้วยการผลิตจากนมวัว Grass-Fed ปราศจากฮอร์โมนและยาปฏิชีวนะ และเป็นฟาร์มเดียวในอาเซียนที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน USDA แท้ๆ โยเกิร์ตประเภทนี้จะมี โยเกิร์ต ราคาแพงกว่าทั่วไป เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าและมอบประโยชน์ด้านสุขภาพที่เหนือกว่า โยเกิร์ตปราศจากน้ำตาล/ไขมัน เพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพ โยเกิร์ตสูตรพิเศษเหล่านี้อาจมีราคาสูงกว่าสูตรปกติ โยเกิร์ตผสมผลไม้หรือธัญพืช การเพิ่มส่วนผสมเหล่านี้เข้าไปก็สามารถทำให้โยเกิร์ต ราคาแพงขึ้นได้ ขนาดบรรจุภัณฑ์ โดยทั่วไปโยเกิร์ต ราคา ถ้วยละเล็ก ๆ จะมีราคาต่อหน่วยสูงกว่าเมื่อเทียบกับโยเกิร์ตแกลลอน ราคาดีกว่า เพราะต้นทุนการผลิตบรรจุภัณฑ์และค่าขนส่งต่อหน่วยที่สูงกว่า ยี่ห้อสินค้า แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในตลาด มักจะมีโยเกิร์ต ราคาสูงกว่าแบรนด์น้องใหม่ หรือแบรนด์ทางเลือก โปรโมชั่นและส่วนลด นี่คือโอกาสทอง! ช่วงเวลาที่มีการจัดโปรโมชั่น หรือการซื้อแบบแพ็ครวม มักจะทำให้คุณได้โยเกิร์ต ราคาถูกลงอย่างเห็นได้ชัด โยเกิร์ตยอดนิยมแบรนด์ไหนคุ้มค่าที่สุด? เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อโยเกิร์ตที่คุ้มค่าและตรงใจที่สุด เราได้รวบรวมและเปรียบเทียบโยเกิร์ต ราคาพร้อมปริมาณจาก 9 แบรนด์ยอดนิยมในตลาดมาให้คุณพิจารณา (ราคาที่แสดงเป็นราคาโดยประมาณ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นและสถานที่จำหน่าย ยี่ห้อ/ชนิดขนาด (กรัม)ราคาโดยประมาณ (บาท)หมายเหตุดัชชี่13514-18โยเกิร์ตทั่วไป, มีหลายรสชาติโยโมสต์13514-18โยเกิร์ตทั่วไป, มีหลายรสชาติเมจิ บัลแกเรีย11020-25โยเกิร์ตสไตล์บัลแกเรียโฟร์โมสต์13514-18โยเกิร์ตทั่วไปดานอน (Dannon)13515-20โยเกิร์ตทั่วไปกรีกโยเกิร์ตเมจิ10025-30กรีกโยเกิร์ตโยลิดา (Yolida)10020-25โยเกิร์ตทั่วไปบีทาเก้น9012-15โยเกิร์ตพร้อมดื่มออร์แกนิก กรีกโยเกิร์ต Butterfly Organic20055-168กรีกโยเกิร์ตออร์แกนิก หรือ Organic Set Yogurt ราคาเริ่มต้น 28 บาท หมายเหตุ โยเกิร์ต มะพร้าว ราคาอาจแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและส่วนผสมของเนื้อมะพร้าว กรีกโยเกิร์ต ราคาคุ้มค่าแค่ไหนกับการลงทุนเพื่อโปรตีนและสุขภาพ? หลายคนสงสัยว่าทำไมกรีกโยเกิร์ตถึงมีราคาสูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไป แม้ส่วนผสมหลักจะคล้ายกัน แต่กระบวนการผลิตนั้นแตกต่าง กรีกโยเกิร์ตผ่านการกรองน้ำและเวย์ออก ทำให้ได้เนื้อเข้มข้น และมีโปรตีนกับโพรไบโอติกสูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไปถึงเท่าตัว แม้กรีกโยเกิร์ต ราคาจะสูงกว่า 50-100% แต่ก็มาพร้อมโปรตีนที่มากกว่า 2 เท่า และไขมันต่ำลง เหมาะสำหรับสร้างกล้ามเนื้อ ควบคุมน้ำหนัก หรือต้องการอิ่มนาน ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสุขภาพที่ดี โยเกิร์ตพร้อมดื่มทางเลือกสำหรับคนรีบเร่ง ที่ให้ทั้งความสะดวกและคุณประโยชน์ ในยุคเร่งรีบโยเกิร์ตพร้อมดื่มเป็นที่นิยมสำหรับมื้อเช้าหรือของว่างรวดเร็ว ต่างจากโยเกิร์ตถ้วยที่อาจมีปัญหากับส่วนผสมอื่น โยเกิร์ตพร้อมดื่มออกแบบมาเพื่อความสะดวกโดยเฉพาะ ด้วยโยเกิร์ตพร้อมดื่ม ราคาที่เข้าถึงง่าย พกพาสะดวก จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเติมพลัง แม้โปรตีนไม่สูงเท่ากรีกโยเกิร์ต แต่ดีต่อสุขภาพกว่าเครื่องดื่มน้ำตาลสูงทั่วไป มอบประโยชน์ง่าย ๆ แม้มีเวลาน้อย โยเกิร์ตยี่ห้อไหนถูกที่สุด และดีที่สุดสำหรับคุณ? หลากหลายโยเกิร์ตในตลาด ทำให้เลือกยากว่าโยเกิร์ตยี่ห้อไหนถูกที่สุดหรือดีที่สุดสำหรับคุณ โยเกิร์ต…

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า